“เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร หัวหอกตัวความหวังของทีมชาติไทย จะระเบิดฟอร์มเก่งในเกมที่ ทัพ “ช้างศึก” จะลงสนามดวลแข้งกับ จอร์แดน ในฟุตบอลชาย เอเชี่ยนเกมส์ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้หรือไม่ ร่วมส่งแรงใจเชียร์กันได้ ในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย. นี้
ในช่วงที่มหกรรมการแข่งขันกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ ณ เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ กำลังห้ำหั่น มาได้เกือบครึ่งทางไปแล้ว คงจะบอกได้ว่ากีฬาที่ทำให้ชาวไทยมีความสุขที่สุดในตอนนี้ หนึ่งในนั้นหนีไม่พ้นทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่ทะยานเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลชาย ได้สำเร็จอย่างแน่นอน
เรียกว่านอกจากผลการแข่งขันที่ออกมาอย่างยอดเยี่ยม ด้วยการไม่เสียประตูแม้แต่ลูกเดียวในทัวร์นาเมนต์นี้ รวมไปถึงการทำประตูที่สะเด่าแทบทุกนัด รูปแบบการเล่นและแท็กติก ของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือของทีม ยังยอดยี่ยมไม่แพ้กันด้วย
ทัพ ช้างศึก ลงโม่แข้งศึกลูกหนังแห่งชาวเอเชีย ในครั้งนี้ ด้วยระบบ 4-2-3-1 ซึ่งต้องบอกว่าทุกคนนั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ก่อนการแข่งขันจะเริ่มอาจจะมีนักเตะกำลังสำคัญบางรายที่ไม่เห็นคุณค่าในการสวมเสื้อทีมชาติขอถอนตัวออกไปก็ตาม
แต่สุดท้ายโค้ช “ซิโก้” ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ระบบทีมและการรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน นั้นมีความสำคัญกว่าเป็นไหนๆ
เกมที่คิดว่าจะยากที่สุดในรอบแรกก็คือการเจอกับ อินโดนีเซีย ที่มาตรฐาน ชื่อชั้น ใกล้เคียงกับเรานักเตะไทยกลับเล่นเหมือนไม่มีความกดดัน ปล่อยตามธรรมชาติยิ่งได้ประตูก่อนยิ่งทำให้เกมไหลลื่น และสุดท้ายจะเอาชนะไปได้ขาดลอย 6-0 และเข้ารอบด้วยฐานะแชมป์กลุ่ม
จนกระทั่งมาถึงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ดวลกับทีมอย่าง “มังกรไฟ” จีน ที่เราเคยไปฝากรอยเท้าเอาไว้ให้พวกเขาในทีมชุดใหญ่คาบ้านถึง 1-5 ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปีที่แล้ว และมาครั้งนี้ก็เช่นกันที่รูปแบบการเล่นของเรายังดูดี จากจังหวะส่งบอลกันอย่างแม่นยำกันเท้าสู่เท้า รวมไปถึงจังหวะจบสกอร์ที่ทุกคนทำกันได้อย่างมั่นใจ ก่อนที่จะย่ำแค้นถลกหนังมังกร เอาชนะไปได้ 2-0
โอเคส่วนหนึ่งอาจะมาจากที่ผู้เล่น แดนมังกร นั้นต้องเหลือเพียง 10 คนในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก แต่หากมองตั้งแต่เริ่มเกมก็แทบจะเป็นทัพช้างศึก ที่เล่นกันได้ดีกว่าจริงๆ
นักเตะทุกคนกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มสุดขีดไล่มาตั้งแต่ผู้รักษาประตูยันกองหน้า อย่าง ผู้รักษาประตูอย่าง เจ้าตอง กวินทร์ ธรรมสัจานันท์ กัปตันทีมที่ทำให้ลูกทีมอุ่นใจไม่ต้องกังวลว่าจะเสียประตูง่ายๆ หรือในแดนกลางที่มีทั้ง สารัช อยู่เย็น และ ชาริล ชัปปุยส์ ที่ผนึกกำลังขับเคลื่อนเกมได้ดีเหลือเกิน โดยเฉาะพ่อหนุ่มลูกครึ่งสวิส ที่จ่ายบอลให้เพื่อนอย่างมีชั้นเชิงและแทบจะกลายเป็นจอมทัพของทีมชุดนี้ไปแล้ว
ส่วนในแนวรุกทั้ง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ,นูรูล ศรียานเก็ม และ “เมสซี่เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ ต้องบอกว่าทุกคนเล่นกันอย่างเข้าใจเกม และทำให้เกมเคลื่อนไปข้างหน้าได้เร็วกว่าเดิม โดยเฉพาะ “เมสซี่เจ” ที่ระเบิดฟอร์มในทัวร์นาเมนต์นี้ จนเบียด ปกเกล้า อนันต์ ที่ว่ากันว่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมเป็นเพียงตัวสำรองไปเลย
ขณะที่หัวหอกตัวเป้า ก็จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้ “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร แสดงให้เห็นแล้วว่าเต็มเปี่ยมไปด้วยสัญชาติญานการทำประตู ไม่ว่าจะลูกกลางอากาศหรือจะบนพื้นสนาม จนตอนนี้ทะยานนำเป็นดาวซัลโว ในศึก อินชอน ครั้งนี้ไปแล้ว
จากนี้ไปในรอบต่อไปในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เราต้องพบกับ จอร์แดน ในวันอาทิตย์ที่ 27 ก.ย. นี้ อาจะดูเป็นงานที่หนักไม่น้อยที่จะต้องดวลกับทีมจาก ตะวันออกกลาง ซึ่งเรามักจะแพ้ทางมาโดยตลอด โดยสถิติที่ ไทย พบ จอร์แดน ทั้ง 4 ครั้งนั้น เราไม่สามารถเอาชนะได้เลยและเป็นการ เสมอกัน 3 ครั้ง แพ้ 1 ครั้ง ยิงได้ 2 เสีย 3 ประตู
แต่หากดูเฉพาะในทัวร์นาเมนต์นี้ ผู้เล่น จอร์แดน อาจจะมีร่างกายที่ใหญ่ กว่าเราแต่ถ้าเทียบฟอร์มการเล่น ทัพ ”ช้างศึก” ไม่เป็นรองและเชื่อว่าหากสุดท้ายแย่ถึงขนาดที่เราจะพ่ายไปจริงๆ ก็มีรูปเกมที่ประทับใจแฟนลูกหนังชาวไทยที่ติดตามเชียร์แน่นอน
นานแค่ไหนแล้วที่ทีมชาติไทยของเราไม่ได้ทะลุผ่านถึงเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย หากจะย้อนไปครั้งสุดท้ายต้องหวนไปในปี 2545 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ หรือเมื่อ 12 ปีที่แล้ว
แต่เชื่อเถอะพรหมลิขิตจะต้องย้อนให้เรากลับไปถึงจุดนั้นเป็นอย่างน้อยในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งวนกลับไปดวลแข้งที่ประเทศ เกาหลีใต้ อีกครั้ง ขอแค่อย่าประมาทคู่ต่อสู้แม้แต่นาทีเดียวเชื่อว่าสุดท้ายเราจะไปถึงฝั่งฝัน
ผมเชื่ออย่างนั้น !!!!
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี