ทีมชาติไทย
ปฏิบัติการณ์ปิดบัญชีช้ำ!ไทยบู๊อาเซียนคัพ
ลุ้นแชมป์รอบ12ปีเปิดวิกฉะ”ลอดช่อง”
โดนเล่นแง่ห้ามซ้อมสนามหญ้าเทียม
ไทยใส่ชุดน้ำเงินบู๊ 3 นัด ไร้เงา “เมสซี่เจ-อดุลย์” บดเจ้าภาพเปิดศึกอาเซียนคัพ ล่าแชมป์แรกในรอบ 12 ปี ขณะที่ “ลอดช่อง” เล่นแง่ไม่ให้ซ้อมสนามจริง “ซิโก้” ไม่สนลั่นพร้อมกำชัย
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 10 "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014" ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทีมไทย อยู่ในกลุ่ม B ร่วมกับ "เจ้าภาพ" สิงคโปร์, “เสือเหลือง” มาเลเซีย และ พม่า โดยเกมนัดเปิดสนามของทีมชาติไทย แชมป์ 3 สมัย ที่ไร้โทรฟี่แชมป์รายการนี้มาแล้วถึง 12 ปี จะต้องพบกับเจ้าภาพ ซึ่งเป็นแชมป์เก่าและแชมป์ 4 สมัย ในวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายนนี้ ตามเวลาประเทศไทย 19.00 น. ที่สนามเนชั่นแนล สเตเดี้ยม
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมผู้จัดการทีม และแถลงข่าว ที่โรงแรมเอ็ม ปรากฏว่า แข้งไทย รวมไปถึง มาเลเซีย และพม่า โดนเจ้าภาพเล่นแง่ในเรื่องของสนามซ้อมแล้ว โดย “บิ๊๊กเษม" นายเกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม เปิดเผยว่า เจ้าภาพ เพิ่งแจ้งให้ทราบว่า ไทยจะไม่สามารถซ้อมสนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งใช้เป็นสังเวียนแข่งจริงได้ เพราะเกรงสนามมีปัญหา พร้อมกับอนุญาตให้ไปได้ แต่ทำได้แค่เดินสำรวจรอบ ๆ สนามเท่านั้น ทั้งที่กำหนดโปรแกรมไว้ก่อนแล้ว
“ผมเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้” บิ๊กเษม กล่าว “ผมได้พยายามโต้แย้งกับเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว แต่ไม่เป็นผล นอกจากนี้สุดท้ายแล้วอีก 2 ทีมคือ เมียนมาร์ และ มาเลเซีย ก็ยินยอมที่จะทำตามเจ้าภาพ ทำให้ไทยจำเป็นต้องไปหาสนามอื่นซ้อมแทน”
ผู้จัดการทีมไทย กล่าวต่อไปว่า เราควรมีสิทธิ์ได้ใช้สนามจริงในการลงซ้อมก่อนแข่ง 1 วัน ซึ่งเป็นมาตรฐานของบสากลอยู่แล้ว แต่เมื่อเจอแบบนี้ก็เซ็งมาก และก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเราเป็นทีมเยือนก็ต้องทำใจ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ความเห็นแก่ตัวมันมีจริง และนี่คืออีกหนึ่งบทเรียนของเรา
ทีมชาติสิงคโปร์
จากการไม่ได้ซ้อมสนามแข่งขันจริง ทีมชาติไทย ได้เดินทางไปฝึกซ้อมที่สนาม บิชาน สเตเดียม รั้งเหย้าของ โฮม ยูไนเต็ด ที่ใช้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมครั้งแรก เหมือนกับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทีมชาติไทยจะใส่เสื้อสีน้ำเงินลงเล่นตลอดทั้ง 3 นัดของรอบแรก
นอกจากนี้ในการประชุมหนนี้ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน หรือเอเอฟเอฟ ได้ประกาศเตือนในเรื่องการล็อกผลการแข่งขัน เพราะถือว่าผิดกฎหมายของสิงคโปร์ มีโทษปรับถึง 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท หรือ จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ หากดูแล้วเกมไหนที่ออกมาไม่ชอบมาพากล จะถูกสั่งสอบสวนทันที
ขณะที่ความพร้อมของนักเตะ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ช ส่ง ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ ผู้ช่วยโค้ชเป็นตัวแทนมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่ง โค้ชใกล้รุ่ง กล่าวว่า กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่แข็งมาก ซึ่งไทยเราก็จะลงเล่นอย่างรัดกุมที่สุด และไม่ประมาท ที่สำคัญเราเชื่อในระบบทีมของเราที่เก็บตัวกันอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทัวร์นาเมนท์ซีเกมส์ ที่พม่า มาจนถึง เอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ ก่อนจะผสมผสานกับทีมชุดใหญ่ในครั้งนี้ทำให้เราค่อนข้างพร้อมมาก
จากนั้นในช่วงเย็น หลังจาก ไทย ลงทำการฝึกซ้อมแล้วนั้น “โค้ชซิโก้” ได้เปิดเผยว่า การไม่ได้ซ้อมสนามจริง ทำให้มีผลเสียกับไทย แต่ในเมื่อเจ้าภาพไม่พร้อมจะให้ซ้อมก็ไม่เป็นไร เพราะเราไม่กลัวอยู่แล้ว เรามาที่นี่เพื่อชัยชนะ ส่วนจุดที่ต้องระวังสิงคโปร์ คือลูกตั้งเตะ เพราะสูงใหญ่ และย้ำนักเตะ อย่าเสียใบเหลือง ใบแดงง่าย ๆ เพราะจะทำให้เพื่อนเล่นยากและเสียประโยชน์ทันที
ในส่วนของผู้เล่นที่จะลงเตะนัดเปิดสนาม “โค้ชซิโก้” เปิดเผยว่า เราจะไม่มีนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บ ประกอบด้วย “บังดุล” อดุล หละโสะ กัปตันทีม, "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ นอกจากนี้ ศราวุธ มาสุข มีอาการเป็นไข้ต้องทดสอบความฟิตอีกหนึ่งคน
สำหรับ 11 นักเตะตัวจริงที่จะลงสนาม ในระบบ 4-3-3 มีดังนี้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ประวีณวัช บุญยงค์, อดิศร พรหมรักษ์, อาทิตย์ ดาวสว่าง, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชับปุยส์, ประกิต ดีพร้อม, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร และ กีรติ เขียวสมบัติ
ทางด้าน แบร์นด์ สตานเก้ กุนซือวัย 66 ปี ชาวเยอรมนี ของสิงคโปร์ กล่าวว่า แฟนบอลเจ้าถิ่น คาดหวังเอาไว้สูงอย่างมากในการป้องกันแชมป์หนนี้เอาไว้ให้ได้ หากทำไม่สำเร็จ ก็จะไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนัดแรกที่เจอกับไทยนั้น เราจำเป็นต้องชนะให้ได้ เนื่องจากเป็นเกมที่มีความสำคัญทั้งคะแนนรวมไปถึงความมั่นใจ
“การพบกันหนล่าสุด จริงอยู่ที่เราแพ้ไทยในซีเกมส์ 0-1 แต่หนนี้มันต่างกันออกไปแน่ เพราะนี่คือทีมชุดใหญ่ ส่วนความอันตรายของทีมไทย ผมมองไปที่เกมรุกที่ดีมาก ไม่ใช่เป็นทีมดาวรุ่ง” สตานเก้ ซึ่งเป็นกุนซือจากเดเดแอร์ หรือเลือดเยอรมันตะวันออก กล่าวในที่สุด
ซึ่งทีมชุดนี้ สิงคโปร์ นำทัพมาโดย ชาห์ริล อิสฮาค หัวหอกกัปตันทีมที่ติดทีมชาติไปแล้ว 118 นัด และเป็นนักเตะยอดเยี่ยมรายการนี้เมื่อครั้งที่แล้ว และ ไบฮัคกี้ ไคซาน ปราการหลังตัวเก๋าวัย 30 ปี ที่ติดทีมชาติมาแล้ว 110 นัด
สถิติคู่นี้เจอกันในศึกอาเซียนคัพ 6 ครั้ง ต่างฝ่ายต่างผลัดกันชนะ, เสมอ และแพ้ อย่างละ 2 ครั้ง ล่าสุดเจอกันในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปรากฏว่า นัดแรก สิงคโปร์ ชนะในถิ่น 3-1 และ ไทย กลับมาเปิดบ้านเฉือนชนะ 1-0 จากการโหม่งของ กีรติ เขียวสมบัติ แต่ก็ไม่เพียงพอ ทำให้ สิงคโปร์ ชนะด้วยสกอร์รวม 3-2 คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ไปครอง
ขณะที่อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ที่จะเตะเวลา 16.00 น.ที่สนามจาลัน เบซาร์ ”เสือเหลือง” มาเลเซีย แชมป์ 1 สมัย จะพบกับ พม่า ความพร้อมเกมนี้ ดอลลาฮ์ ซาเลห์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติมาเลเซีย และอดีตนักเตะคนดัง เปิดเผยว่า เราเก็บตัวมามานานกว่า 1 เดือนเต็ม ๆ ซึ่งนักเตะที่เรามีอยู่นั้นถือว่า พร้อมมาก ๆ ทีมของเราผสมนักเตะตัวเก๋า และดาวรุ่ง ซึ่งผมเชื่อว่าเราจะประเดิมชัยได้ในนัดแรก
ส่วน ราดอจโก้ อัฟราโมวิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติพม่า ซึ่งเป็นคนนำทัพสิงคโปร์ ได้แชมป์รายการนี้มาได้ถึง 3 สมัย กล่าวว่า เราเป็นแชมป์ในรอบคัดเลือก และมีความพร้อมในรายการนี้อย่างมาก มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก ที่ผมได้กลับมาที่สิงคโปร์อีกครั้ง แต่ทั้ง 3 เกมที่เราต้องลงสนามถือเป็นเกมที่ยากมาก ดังนั้นผมหวังว่าจะเก็บชัยชนะให้ได้อย่างน้อยสัก 1 นัดก็น่าจะพอใจแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี