ตลอดปีที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองก็ว่าได้ของวงการสอยคิวไทย โดยเฉพาะการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกได้ถึง 3 รายการ
ยิ่งพิเศษเข้าไปใหญ่เมื่อคนที่คว้าแชมป์โลกได้เป็น “พ่อ-ลูก”กันอีกด้วย
เมื่อกลางปีที่ผ่านมา "ใบพัด ศรีราชา" ศิริภาพร นวนทะคำจัน สาวน้อยวัย 15 ปี คว้าแชมป์โลกได้ถึง 2 รายการ นั้นคือ ศึกสนุกเกอร์ เวิลด์ทีม-ซิกซ์เร้ด IBSF World Team & 6 Reds Championship ที่เมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ จากประเภทบุคคลหญิง ซึ่งเป็นคนแรกของไทยและคนที่ 2 ของโลก กับ ประเภททีม 15 แดง ซึ่ง ใบพัด จับคู่กับ “แอม ร้อยครู” อมรรัตน์ อ่วมด้วง
ซึ่ง “ใบพัด” บอกว่าเธอมีพ่อของเธอเป็นต้นแบบ
นั่นคือ “หยิก สำโรง” พิสิษฐ์ จันทร์ศรี
ก่อนหน้านี้ หยิก สำโรง กลายเป็นนักสอยคิวไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์สมัครเล่นโลก ประเภทอาวุโสม หรือ ซีเนียร์ ที่เดากัฟปิลส์ ประเทศลัตเวีย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2013 หลังจากเฆี่ยน เกล็น วิลกินสัน จากออสเตรเลีย 6-0 เฟรม
ซึ่ง หยิก ก็มาได้รองแชมป์โลก ประเภททีมมาสเตอร์ คู่กับ “ต่าย พิจิตร” ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์ ในรายการเดียวกับที่ ใบพัด ได้แชมป์อีกด้วย
กระทั่งมาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “หยิก สำโรง” ก็ทำได้อีกครั้ง เมื่อไปคว้าแชมป์ซีเนียร์ เวิลด์ ได้อีกที ที่บังกาลอร์ ประเทศอินเดีย ด้วยการพิชิต “เดอะ โบโซ่” ดาร์เรน มอร์แกน อดีตมือ 7 โลกแห่งเวลส์ ซึ่งเป็นแชมป์รายการนี้ปี 2007 ไปได้ 6-5 เฟรม
“เป็นความภูมิใจอย่างมาก กับการได้ตำแหน่งแชมป์โลกมาครอง เพราะก่อนหน้านี้นอกจากตัวผมจะได้แชมป์โลกเมื่อปีก่อนที่ลัตเวีย และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ศิริภาพร นวลทะคำจัน ลูกสาวแท้ๆ ก็เพิ่งคว้าแชมป์โลกหญิง ประเภท 6 แดงมาครอง ทำให้มีความสุขอย่างมาก ขอมอบแชมป์ให้กับแฟนสอยคิวไทย และแฟนกีฬาไทยทุกคน”
หยิก บอกว่า ในตอนแรกที่นำ 2-0 ก่อนจะโดนแทง 4 เฟรมติดนั้น ได้ออกไปล้างหน้า แล้วพูดกับตัวเองว่า ไม่ต้องไปกลัวอะไร ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครอบครัวและทุกคนรอคอยความสำเร็จของเราอยู่
“ชัยชนะครั้งนี้ ผมจึงดีใจมาก ๆ นั่นเป็นเพราะ ผมตั้งใจที่จะยืนหยัดบนอาชีพนี้ให้ได้ต่อไป เพราะเป็นอาชีพที่สุจริต สามารถทำรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ และเป็นที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการได้รับใช้ชาติอีกด้วย ซึ่งผมตอนนี้มีอันดับอยู่ในดิวิชั่น 1 และพยายามรักษาฟอร์มเอาไว้ได้อย่างน้อยต้อง 5 ปี เนื่องมาจากว่า นอกจากจะต้องดูแลลูกสาว ก็คือ ศิริภาพร แล้ว ยังมี น้องเพิ่ม ที่อายุเพิ่งจะ 5 ขวบ กำลังฝึกซ้อมสนุกเกอร์อยู่ จึงอยากเป็นแบบอย่างให้เขาก้าวขึ้นมาต่อไป”
...หากผลงานดี ลูกชายจะได้เห็นเป็นตัวอย่างและตั้งใจที่จะเล่นสนุกเกอร์...
“หยิก สำโรง” บอกว่า ผมผ่านอะไรมาเยอะก่อนจะมาถึงตรงนี้ ทำงานทุกอย่างที่สุจริต ไม่เคยงอมืองอเท้า โดยอาศัยความอดทนขยันขันแข็ง จนกระทั่งมาเล่นสนุกเกอร์ด้วยการซื้อวีดีโอมาฝึกเอง และอาศัยครูพักลักจำ จนกระทั่งเลิกไปและกลับมาเล่นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2545 จากการชักชวนของ “เอ๋ บางคล้า”
น่าสนใจและน่าติดตามว่า ปีหน้า หยิก สำโรง ที่ทำให้โลกสอยคิวรุ่นใหญ่ได้รู้จัก กับนักสอยคิวที่ไม่จำเป็นต้องมีดีกรีความยิ่งใหญ่ในสมัยวัยคะนอง แต่ด้วยการฟิตซ้อมดูแลตัวเองและมุ่งมั่นตั้งใจจริง ทำให้เขาก้าวมาถึงตรงนี้ได้อย่างน่าสนใจ
แชมป์อาวุโสโลกสมัย 3 หรือการก้าวเดินตามรอยเท้าพ่ออันยิ่งใหญ่ของทั้งลูกสาว และลูกชาย
น่าสนใจวิถีของพ่อที่ชื่อ”หยิก สำโรง” จริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี