เป็นข่าวที่ตีโครมโหมกระหน่ำ และสะเทือนวงการกีฬาไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อ มร.เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมบิลเลียดและสนุ้กเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโปรเจกท์สำคัญที่จะสนับสนุนกีฬาบิลเลียดสปอร์ต เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์
ย้ำอีกครั้ง จะนำเกมสอยคิวเข้าสู่กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพ
เหตุผลชัดเจนก็คือ เนื่องจากกีฬาสอยคิวปัจจุบันเติบโตอย่างมาก และเหมาะสมอย่างยิ่งกับการผลักดันเข้าสู่เกมที่ใหญ่ที่สุดนี้
เป็นประเด็นที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะนับตั้งแต่ เจสัน ที่เคยเป็นนักสนุ้กเกอร์มาก่อน จับมือบริหารงานกับ แบร์รี่ เฮิร์นส์ วงการนั้นน่าจับตามองอย่างมาก
เกมสนุ้กเกอร์จากเดิมที่ลดลงจาก 15 รายการ เหลือ 7 รายการในยุคของ เซอร์ร็อดนี่ย์ วอล์คเกอร์ แต่มาในยุคปัจจุบัน
แทงกันสะบั้นกว่า 20 รายการ
อันนี้นับเฉพาะรายการอาชีพ
ถือเป็นการเข้ามาผสมผสานกลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวที่ถูกต้อง เพราะทั้ง เจสัน และ แบร์รี่ ต่างฝ่ายต่างเก่งคนละอย่าง
เจสัน รู้ดีว่านักกีฬาต้องการอะไร
ขณะที่ แบร์รี่ ก็รู้ดีว่าการตลาดต้องการอะไร
เมื่อทุกอย่างลงตัวเดินหน้ากันมาในช่วง 3-4 ปีหลังจะเห็นได้ว่า วงการสอยคิวระดับอาชีพโลกเติบโตอย่างมาก และไม่ได้อยู่เพียงแค่สหราชอาณาจักร มีการกระจายไปทั่วทั้งภาคพื้นยุโรป หลายชาติไม่เคยจัดก็ได้จัดทั้ง ลัตเวีย, โปรตุเกส หรือไปกระทั่งอเมริกาใต้อย่าง บราซิล ก็เคยมาแล้ว
ที่สำคัญ การบุกตลาดเอเชีย เพื่อมาหาเป้าใหญ่อย่าง จีน คือสิ่งที่ผู้บริหารคิวโลกชุดนี้มาถูกทางอย่างมาก
เมื่อการแข่งขันกระจายไปทั่วโลก แน่นอนว่า อำนาจในการต่อรองสูงขึ้น จากเดิมคือที่อังกฤษ สิ่งที่ทุกคนได้เห็นก็คือ
เรตติ้งคนดูสนุ้กเกอร์ชิงแชมป์โลกมากกว่าคนดูเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงหลายช่วงตัว
ทำให้ผู้บริหารกล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจมากขึ้น
เจสัน คนไฟแรง บอกว่า WPBSA พร้อมที่จะร่วมมือกันกับ สมาพันธ์กีฬาบิลเลียดโลก (WCBS) เพื่อหาทางผลักดันให้กีฬาสอยคิวได้รับการบรรจุลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปี 2020 ให้ได้
เหตุผลก็เพราะปัจจุบันสนุ้กเกอร์เติบโตขึ้นในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงที่ผ่านมา ที่สำคัญกีฬาบิลเลียดสปอร์ต ได้ถูกบรรจุเข้าสู่การแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์ ที่อาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น มาตั้งแต่ปี 2001 และยังคงแข่งขันอย่างต่อเนื่องในเวิลด์เกมมาถึงปัจจุบันนี้ ทำให้เราเชื่อว่า มีโอกาสไม่น้อยที่จะบรรจุอยู่ในโอลิมปิกเกมส์ ปี 2020
“หากนับเฉพาะการแข่งขันสนุ้กเกอร์อย่างเดียวก็มีผู้ชมทั่วโลกเกือบ 500 ล้านคน และมีการแข่งขันกันในกว่า 90 ประเทศ เมื่อรวมกับ พูล กับ แครอมบอล ที่อยู่ภายใต้การบริหารของ ดับเบิ้ลยูซีบีเอส ทำให้มีการแข่งขันถึง 200 ประเทศ ทำให้เราเป็นหนึ่งในกีฬาที่เล่นกันแพร่หลายมากที่สุดในโลก โอลิมปิกเป็นการนำนักกีฬาที่มีทักษะสูงที่สุดบนโลกใบนี้มารวมกัน และแทบไม่มีกีฬาไหนที่ใช้ทักษะและสมาธิเทียบเท่าสนุ้กเกอร์ได้อย่างแน่นอน ซึ่งการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโอลิมปิกเป็นวิสัยทัศน์ระดับโลกของเรา และเรามุ่งมั่นที่จะได้เห็นผู้เล่นของเราร่วมชิงชัยเหรียญทองในระดับโอลิมปิกเกมส์”
เจสัน ยืนยันว่า นักกีฬาสนุ้กเกอร์ สามารถผลักดันตัวเองไปถึงขีดจำกัด ทั้งในแง่จิตใจและการอุทิศตัว เราให้ความรู้แก่ผู้คนผ่านทางโครงการคิวโซน อิน ทู สคูล ดังนั้นทุกคนอย่าได้แปลกใจว่า เรามุ่งมั่นที่จะได้เห็นผู้เล่นของเราร่วมชิงชัยเหรียญทองในระดับโอลิมปิก เริ่มตั้งแต่ที่โตเกียว
ทั้งนี้ “โตเกียว 2020” จะสามารถเพิ่มชนิดกีฬาเข้าแข่งขันได้อีก 1 ประเภท จากการได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ในการประชุมสามัญที่โมนาโก เมื่อปีที่แล้ว และทั้งดับเบิ้ลยูพีบีเอสเอ และดับเบิ้ลยูซีบีเอส เตรียมจับมือกันในสัปดาห์นี้เพื่อนำเสนอเหตุผลในการเข้าร่วมการแข่งขัน
สำหรับ บิลเลียดสปอร์ต ต้องแข่งกับ เบสบอล กับ ซอฟต์บอล ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น จะเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะถูกบรรจุในการแข่งขันที่โตเกียว 2020
โดยกีฬาที่ถูกบรรจุเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ ล่าสุดคือ กอล์ฟ และรักบี้ 7 คน จะแข่งขันปี 2016 ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล
ถึงตรงนี้ เห็นการพัฒนาก้าวกระโดดของวงการสอยคิวโลก ถือว่าน่าสนใจ แต่ที่มองข้ามกันไม่ได้ก็คือ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ไม่มีการแข่งขัน บิลเลียดสปอร์ต ในครั้งที่ผ่านมา
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ประดามี แต่ที่แน่ๆ “อินชอนเกมส์” ได้สูญเสียมูลค่าต่าง ๆ ไปอย่างมากมาย กับกีฬาที่กล้าพูดเลยว่า ชาวเอเชียสามารถเอาชนะพวกยุโรปหัวแดงได้อย่างสบายๆ
คิดเอาง่ายๆ “บิลเลียด” แชมป์โลกคืออินเดีย, “แครอมบอล” แชมป์โลกคือ ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้, “พูล” แชมป์โลกคือ ฟิลิปปินส์ กับ ไต้หวัน และ “สนุ้กเกอร์” กีฬาเอกของคิวสปอร์ต แชมป์โลกก็เป็นของ จีน มาแล้วในประเภททีม
หากคิดจะพัฒนากันจริงๆ เอเชียจะต้องร่วมกันผลักดันให้ บิลเลียดสปอร์ต กลับไปสู่เอเชี่ยนเกมส์อีกครั้งให้เร็วที่สุด นั่นคือ
อินโดนีเซีย 2019
เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า กีฬาไหนจะได้รับการชูมือ กีฬาไหนที่ว่าดีบางทีก็ไปชน “ตอ” โดยไร้สาเหตุ อันนี้ก็มีมามาก
หากกีฬาของ “ทวีปที่ใหญ่ที่สุด” ยังไม่มี มองอย่างไรมันก็ยังยากอยู่ดีที่จะเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ แต่สำหรับครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้น ถือเป็นปฐมบทที่สำคัญอีกครั้งของวงการ ที่กระโดดมาลุยตรงนี้อย่างเต็มพิกัด
วัดกันอีกสักตั้ง....จะเป็นไรไป!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี