“เรือใบสีฟ้า” ทำท่าจะต้องเสีย แวงซองต์ ก็องปานี เซ็นเตอร์แบ๊กกัปตันทีมชาวเบลเยียมไปทั้งซีซั่นแล้ว หลังจากอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อน่องไม่ดีขึ้น ทำให้แนวรับต้องใช้ มาร์ติน เดมิเคลิส กับ เอเลียเควียม ม็องกาล่า ยืนคู่กัน ขณะที่ วิลฟรีด โบนี่, สเตวาน โยเวติซ, เจมส์ มิลเนอร์ และกาแอล กลีชี่ ก็เจ็บลงไม่ได้ ทำให้ มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือต้องปรับทัพกันใหม่ จะส่ง แฟรงค์ แลมพาร์ด กับ ซาเมียร์ นาสรี่ ลงตัวจริง ทำเกมกับ ยาย่า ตูเร่ และดาบิด ซิลบา ส่วนหน้าเป้ายังเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่
ขณะที่ “ขุนค้อน” ยกพลมาหนนี้โดยให้ คาร์ลตัน โคล ยืนกองหน้าแทนที่ ดิอาฟรา ซาโก้ ที่เจ็บหนักอาจต้องพักทั้งซีซั่น ทำให้แดนหน้าเหลือตัวเลือกไม่มาก เพราะ แอนดี้ แคร์โรลล์ ชิงเดี้ยงไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังดีที่ เอ็นเนอร์ วาเลนเซีย ผ่านความฟิตกลับมาพร้อมช่วยทีมอีกครั้ง
อีกคู่ในเวลา 22.00 น. “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล เล่นในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ดวลกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส นัดนี้เจ้าบ้านได้ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ ปราการหลังอาร์เจนตินา กลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมคุมแนวรับอีกครั้ง หลังจากพ้นแบน แต่ มุสซ่าซิสโซโก้ กับ ปาปิสส์ เดมบ้า ซิสเซ่ ยังติดแบน รวมไปถึง สตีเว่น เทย์เลอร์, เซียม เดอ ยอง, พอล ดัมเมตต์, ชีค ติโอเต้, เจค อัลนิค และโรแลนโด้ แอรอนส์ ยังเดี้ยงยาวเป็นบัญชีหางว่าวเหมือนเคย
ฝั่งของทีมเยือนจากลอนดอน รอเช็คฟิต อูโก้ ยอริส นายประตูคนสำคัญ กับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่หายเจ็บแล้ว รวมไปถึง แยน แฟร์ตองเก้น ที่เพิ่งหายป่วย ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือยังใช้ผู้เล่นหน้าเดิมทั้ง คริสเตียน เอริคเซ่น, นาเซอร์ ชาดลี่, แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และแฮร์รี่ เคน
ทางด้านศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามนิว เวมบลีย์ เวลา 21.00 น. “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะดวลกับ “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า โดยคู่นี้ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เนื่องจากเป็นแชมป์รายการนี้เท่ากันที่ 7 สมัย และเจอกันในรายการนี้ทั้งหมด 7 ครั้ง วิลล่า ชนะไปในครั้งแรก จากนั้น 6 ครั้งหลัง ลิเวอร์พูล ชนะรวด
นัดนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เจ้านายใหญ่ของ “หงส์แดง” ยืนยันว่าจะส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมลงนำทัพตั้งแต่ต้นเกม หลังจากพ้นโทษแบนที่ไปทำฟาวล์ อันเดร เอร์ราร่า ในเกมแดงเดือด ทำให้ต้องโดนไล่ออกตั้งแต่ 38 วินาทีแรกของการอยู่ในสนาม พร้อมกับได้ มาร์ติน สเคอร์เทล กองหลังพันธุ์บู๊พ้นแบนกลับมาเช่นเดียวกัน แต่ต้องรอเช็คฟิต แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ที่เจ็บสะโพก ส่วน จอร์ดอน ไอบ์ ติดคัพไทลงเล่นไม่ได้แน่นอน รวมถึง มามาดู ซาโก้ กองหลังฝรั่งเศส ที่ยังเจ็บ ซึ่งทีมนั้นปรับระบบมาเล่น 4-3-3 เป็นเกมที่ 3
ทางฝั่ง วิลล่า จะได้ กาเบรียล อัคบอนลาฮอร์ หายเจ็บเอ็นหลังเข่ากลับมายืนหน้าคู่กับ คริสติยง เบนเตเก้ รวมถึง สก็อตต์ ซินแคลร์ และแอชลี่ย์ เวสต์วู้ด ก็ฟิตทันเวลา แต่ คีแรน คลาร์ก กับ คริส เฮิร์ด ยังเจ็บลงไม่ได้ และคาร์ลอส ซานเชซ ติดโทษแบน ส่วนตำแหน่งด่านสุดท้าย เชย์ กิฟเว่น จะได้เล่นในรายการนี้เหมือนเดิม
สถิติการพบกันของทั้งสองทีมในรายการนี้ นัดที่ 1 20 มีนาคม 1897 รอบรองฯ ที่บรามอลล์ เลน/วิลล่า ชนะ 3-0, นัดที่ 2 28 มีนาคม 1914 รอบรองฯ ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน/ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0, นัดที่ 3 18 กุมภาพันธ์ 1967 รอบ 4 ที่แอนฟิลด์/ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0, นัดที่ 4 5 มกราคม 1985 รอบ 3 ที่แอนฟิลด์/ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0, นัดที่ 5 31 มกราคม 1988 รอบ 4 ที่วิลล่า พาร์ค/ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0, นัดที่ 6 8 มีนาคม 1992 รอบ 6 ที่แอนฟิลด์/ลิเวอร์พูล ชนะ 1-0 และ นัดที่ 7 31 มีนาคม 1998 รอบรองฯ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด/ลิเวอร์พูล ชนะ 3-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี