● รอบแรก
รอนนี่ โอ’ซุลลิแวน มีปัญหาระหว่างการแข่งขันเพราะรองเท้ากัด ทำให้ต้องเท้าเปล่าแทง ก่อนจะไปเปลี่ยนรองเท้ามานั้น ซึ่ง รอนนี่ ได้มอบรองเท้าเจ้าปัญหาให้กับ อารอน ครอสบี้ ไอ้หนูกองเชียร์จากลินคอล์น จากนั้นก็ไปยืมรองเท้าจากไมค์ แกนลีย์
ผู้อำนวยการแข่งขันมาสวมแทน
ทางด้าน ติง จุ้น ฮุย ทำพลาดมหันต์ กับการจะทำแม็กซิมั่มเบรกหนแรกในชีวิต และเป็นคนที่ 7 ณ ครูซิเบิ้ล กับโอกาสคว้าเงินถึง 30,000 ปอนด์ เมื่อลืมไปว่าแทงชุดดำไปเกือบหมดโต๊ะแต่ไปกินน้ำเงิน
ส่วน อลิสเตอร์ คาร์เตอร์ เข้าสู่ครูซิเบิ้ล อีกครั้งหลังจากไปรักษามะเร็ง และผ่านเข้ารอบได้ด้วยการชนะ อลัน แม็คมานัส 10-5 เฟรม
● รอบ 16 คนสุดท้าย
มาร์ค เซลบี้ แชมป์เก่ามีอันต้องตกรอบเมื่อแพ้ แอนโธนี่ย์ แม็คกิลล์ 9-13 เฟรม ขณะที่ ติง จุ้น ฮุย เอาชนะ จอห์น ฮิกกิ้นส์ 13-9 เฟรมเข้าสู่รอบ 8 คนได้เป็นหนที่ 3 ในรอบ 9 ปี ทางด้าน สจ๊วร์ต บิงแฮม กด 7 จาก 8 เฟรมไล่ถลุง แกรม ด็อตต์ อดีตแชมป์โลก ขาดลอย 13-5 ซึ่งในรอบนี้สกอร์ 13-5 เกิดขึ้นถึง 4 คู่ นอกจากคู่ของ บิงแฮม กับ ด็อตต์ ยังมีคู่ที่ รอนนี่ ชนะ แมทธิว สตีเว่นส์, ฌอน เมอร์ฟี่ย์ ชนะ โจ แพร์รี่ และนีล โรเบิร์ตสัน ชนะ อลิสเตอร์ คาร์เตอร์
● รอบ 8 คนสุดท้าย
จัดด์ ทรัมป์ ดับซ่า ติง จุ้น ฮุย ด้วยการเอาชนะอย่างขาดลอยถึง 13-4 เฟรม ขณะที่ แอนโธนี่ย์ แม็คกิลล์ ม้ามืดจากสกอตแลนด์ ยุติเส้นทางล่าฝันเมื่อแพ้ให้กับ ฌอน เมอร์ฟี่ย์ 8-13 ทำให้ เมอร์ฟี่ย์ เข้ารอบตัดเชือกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
ทางด้าน รอนนี่ โอ’ซุลลิแวน ตกรอบ เมื่อตามหลัง สจ๊วร์ต บิงแฮม ก่อน 3-5 ในเซสชั่นแรก กลับมาทำได้ดีในเกมช่วง 2 เสมอกัน 8-8 เฟรม แต่ในช่วงสุดท้าย ถูก บิงแฮม กด 5 เฟรมรวด ก่อน รอนนี่ แพ้ยับ 9-13 ตกรอบหมดลุ้นแชมป์สมัยที่ 6 พร้อมทำให้ บิงแฮม เข้ารอบตัดเชือกชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรก
อีกคู่ แบร์รี่ ฮอว์กิ้นส์ เข้าตัดเชือก 3 ปีติดต่อกัน เมื่อเฉือน นีล โรเบิร์ตสัน 13-12 เฟรม โดยเกมนี้ทั้งสองคนแทงเซ็นจูรี่เบรกรวมกันได้ถึง 8 ไม้ เป็นสถิติของการเล่นระบบ 13 ใน 25 เฟรมอีกด้วย
● รอบรองชนะเลิศ
เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่นักสอยคิวจากอังกฤษพาเหรดเข้ารอบตัดเชือกมาทั้งหมดในยุคของครูซิเบิ้ล โดยที่ ฌอน เมอร์ฟี่ย์ เข้าชิงเป็นครั้งที่ 3 เอาชนะ แบร์รี่ ฮอว์กิ้นส์ 17-9 พร้อมกับร่วมกันทำสถิติแทงได้ 8 เซ็นจูรี่ โดย 5 ไม้จากเมอร์ฟี่ย์ และอีก 3 ไม้จากฮอว์กินส์
ขณะที่ บิงแฮม กับ ทรัมป์ สู้กันได้แบบสนุก บิงแฮม ทิ้งระยะห่าง ทรัมป์ 2 เฟรม จนกระทั่งนำ 16-14 ทรัมป์ ออกมาแทงสองเซ็นจูรี่ตีเสมอ 16-16 ก่อนที่เฟรมตัดสิน บิงแฮม จะเอาชนะไปได้ 17-16 เฟรม เข้าชิงชนะเลิศเป็นหนแรก
● รอบชิงชนะเลิศ
ศึกชิงดำ ฌอน เมอร์ฟี่ย์ เป็นอดีตแชมป์โลก ปี 2005 พบกับ บิงแฮม ที่ โดยนัดชิงชนะเลิศ โอลิวิเยร์ มาร์ทีล เป็นผู้ตัดสินถือเป็นคนแรกจากเบลเยียมที่ได้ทำหน้าที่ และเป็นคนที่ 2 นอกสหราชอาณาจักรที่ได้ตัดสินนัดชิงต่อจาก แยน เฟอร์ฮาส จากเนเธอร์แลนด์
เมอร์ฟีย์ ออกสตาร์ทนำ 3-0 ก่อนจะเสมอกัน 4-4 จากนั้น เมอร์ฟี่ย์ นำต่อ 9-8 เข้าสู่เซสชั่นที่ 3 เกมพลิกกลับมาเป็น บิงแฮม ออกนำ 14-11 เฟรม ก่อนที่ บิงแฮม มีโอกาสทำแม็กซิมั่มเบรกในเฟรมที่ 20 แต่มาพลาดแดงสุดท้ายหลังตบไปแล้ว แดงดำ 14 ชุด
ทั้งคู่แทงมาเสมอกันที่ 15-15 จากนั้น บิงแฮม เร่งเครื่องกด 3 เฟรมติดคว้าแชมป์โลกมาครองพร้อมกับเป็นแชมป์ที่อายุมากที่สุดที่ได้แชมป์ที่ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ บนวัย 38 ปี
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี