นาทีปัจจุบัน ท่านลองไปที่แผงหนังสือแล้วจะใจหาย!
“หนังสือกีฬา” โดยเฉพาะหนังสือฟุตบอลที่เคยวางขายมากมายสารพัด นาทีนี้แทบจะหายไปจากแผงทั้งหมด ชนิดที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อก่อนคำว่า “คนไทยอ่านหนังสือน้อยลง” มีความเชื่อไม่ถึงครึ่ง แต่ตอนนี้น่าสนใจทีเดียวว่า มันเป็นไปแล้ว มันเป็นไปได้ จากสถานการณ์ปัจจุบันที่คนหันมาอ่านจาก “โทรศัพท์” กันงอมแงม
อย่างไรก็ตาม “หนังสือ” ยังคงเป็นที่ต้องการของคนอีกหลายคนในโลกใบนี้ และยังมีคนออกหนังสือสวนกระแสกันอย่างมากมาย
ในวงการฟุตบอล หนังสือตอนนี้ที่น่าสนใจก็คือ อัตชีว
ประวัติเล่มใหม่ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีมลิเวอร์พูล
อีกหนึ่งเล่มก็คือ หนังสือของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมผู้ยิ่งใหญ่ของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของท่านเซอร์ คือ “Leading” ที่เผยแง่มุมที่น่าสนใจออกมาอย่างมากมาย
วันนี้เราได้รวบรวมเรื่องราวน่าอ่านและน่าสนใจของ เซอร์อเล็กซ์ ที่ไม่ว่าหนังสือเล่มไหนออกมา ก็น่าอ่านทั้งนั้นมาให้ทุกท่านได้สัมผัส และมีแง่มุมที่น่าสนใจมากๆ จนคุณพลาดไม่ได้!
ปอล ป๊อกบา มีเอเย่นต์ที่ไม่ดีทำให้ต้องย้ายทีมตามความคิดของเซอร์
● ‘ป๊อกบา’ ลาผีเพราะเอเย่นต์
ประเด็นของ ปอล ป็อกบา ดาวโรจน์ทีมชาติฝรั่งเศส ที่ทีมต้องเสียดาวรุ่งคนนี้ไปให้กับ ยูเวนตุส จนกระทั่งปัจจุบันได้ยกระดับเป็นนักเตะทั่วโลกจับตามอง เป็นเพราะจากเอเย่นต์ที่ปั่นหัวนักเตะจนย้ายทีม
“มีเอเย่นต์อยู่คนสองคนที่ผมไม่ชอบเลย หนึ่งในนั้นคือ มิโน่ ไรโอล่า เอเย่นต์ของ ปอล ป๊อกบา ที่ผมกล้าที่จะบอกว่า ผมไม่ไว้ใจเขาตั้งแต่พบกันหนแรก เขาเป็นคนเสี้ยมให้ ป๊อกบา แข็งเมือง และปฏิเสธการเซ็นสัญญาใหม่กับเรา และเลือกไป ยูเว่ ในปี 2012”
เซอร์อเล็กซ์เปิดใจอีกด้วยว่า การเจรจาครั้งแรกล้มเหลวไม่มีชิ้นดี ซึ่งผมเชื่อว่ามันไม่มีวันบรรจบกันได้อีก เขากับผมเหมือนน้ำกับน้ำมัน นับตั้งแต่นั้นเราก็ไม่มีความหวังอะไรแล้ว เพราะ ไรโอล่า โน้มน้าวได้ทั้ง ปอล และครอบครัวของเขา
สำหรับ ป๊อกบา นั้น เซอร์อเล็กซ์ ไปคว้าตัวมาจากสโมสรเลอ อาร์ฟ ตั้งแต่ยังเด็ก แต่กลับไม่ต่อสัญญาใหม่ออกไป เพราะบอกว่าต้องการย้ายทีม สุดท้าย ป๊อกบา เลือกไปเล่นให้ ยูเวนตุส ในอิตาลี จนกระทั่งกลายเป็นนักเตะชั้นนำของโลกยุคปัจจุบันไปเรียบร้อยแล้ว
เอริค คันโตน่า คือการซื้อตัวที่คุ้มค่า และน่าเอาแบบอย่างมากที่สุด
● นักเตะระดับโลกที่โรงละครแห่งความฝัน
เซอร์ระบุว่าเขาเคยร่วมงานกับนักเตะระดับโลก รวมทั้งสิ้น 4 คน ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตลอดการคุมทัพ 26 ปี
โดย 4 นักเตะดังกล่าวประกอบด้วย เอริค “เดอะ คิง” คันโตน่า กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่เขาซื้อมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ปี 1993, พอล สโคลส์ กับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ก้าวขึ้นมาจากอะเคเดมี่ของสโมสร และคนสุดท้ายคือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ซื้อมาจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน จนก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ในวงการลูกหนัง พร้อมกับเป็นนักเตะที่ค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์ในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ เซอร์ ยังกล่าวถึง 3 กัปตันทีมคนดังในยุคของเขาประกอบด้วย ไบรอัน ร็อบสัน, สตีฟ บรู๊ซ และรอย คีน ว่า คือนักฟุตบอลที่ทรงอิทธิพลที่สุดเวลาอยู่ในทีม
เซอร์เปิดเผยว่า เดวิด มอยส์ หาใช่ตัวเลือกแรกในการคุมทัพผีต่อจากเขา อย่างที่ทุกคนเข้าใจ
● ‘มอยส์’ ตัวเลือกสุดท้ายรับงานแทน
เรื่องสำคัญเมื่อเซอร์วางมือก็คือ เขาได้ทำการติดต่อไปยัง 3 กุนซือระดับโลก เพื่อให้มาทำงานแทนที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ถูกปฏิเสธกลับมาทั้งหมด ทำให้หวยไปออกที่ เดวิด มอยส์ ในที่สุด
“ผมได้พบกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในปี 2012 และผมได้โทรไปคุยกับเขาอีกรอบ ซึ่งเขาได้บอกกับผมว่า เขากำลังจะไปรับงานที่อื่น รวมถึง โชเซ มูรินโญ่ ที่ต้องการกลับไปยังเชลซีมากกว่า เพราะ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็เลือกไปคุม เรอัล มาดริด และเจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มีความสุขดีกับ ดอร์ทมุนด์ ทำให้เราเลือก เดวิด มอยส์ ซึ่งผมก็หนุนหลังเขามาตลอด แต่น่าเสียดายที่เขาได้โอกาสในการทำงานน้อยไป”
ยาป สตัม คือการขายที่เสียดายที่สุดของ เซอร์เฟอร์กี้
● ‘โรนัลโด้’ ผู้บ้าคลั่งหน้าตาตัวเอง
กรณีของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะตัวกลั่นทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งเป็นหนึ่งในเด็กปั้นชั้นยอดในยุคของการคุมทัพนั้น คลั่งไคล้ในใบหน้าตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เพราะชอบส่องกระจกดูตัวเองอยู่ตลอดเวลา
“เรายอมรับกับทุกอย่างได้ เรื่องอีโก้มันเกิดขึ้นกับทุกคน ตัวอย่างชัดๆ ของการหลงใหลในตัวเองต้องยกให้กับ โรนัลโด้ เพราะเขาจะยืนส่องกระจกแบบหลงตัวเอง แต่มันก็เป็นความภาคภูมิใจที่ดี สำหรับตัวเขาเพราะเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดลำดับต้นๆ ที่ผมได้เซ็นสัญญามาร่วมทีม”
เซอร์ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า มีนักบอลหลายคนในทีมขว้างทั้งรองเท้า หรือของใกล้ๆ มือใส่ โรนัลโด้ เวลาส่องกระจก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้สนใจ และไม่เคยโกรธแม้แต่น้อย เพราะเขามีสมาธิกับกระจกมากกว่า
● ที่สุดของนักเตะต้อง ‘เอริค เดอะ คิง’
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยกย่อง เอริค “เดอะ คิง” คันโตน่า อดีตหัวหอกตัวกลั่นของทีม เป็นนักฟุตบอลที่มีความสำคัญอย่างมาก และเป็นคนที่พลิกโฉมหน้านำความยิ่งใหญ่มาสู่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อย่างแท้จริง
“เขาเป็นคนที่มีชีวิตน่าสนใจมากตลอดช่วงเวลาที่เคยร่วมงานกันใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาเป็นบุรุษหนุ่มที่น่าค้นหาเป็นอย่างยิ่ง ตลอดการทำงานปี 1992-1997 กับเรา เขามีส่วนสำคัญ ในการเป็นผู้นำคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ 4 สมัย รวมทั้ง เอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง และเป็นดับเบิ้ลแชมป์ของอังกฤษถึง 2 ครั้ง เป็นเรื่องยากที่จะประเมินผลงานความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ที่ คันโตน่า นำมาสู่ แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ
เซอร์บอกว่า ผมคุยกับ คันโตน่า ทุกวัน หากมีการจัดอันดับล่ะก็ เขาเป็นคนดีและน่าสนใจมาก เขาต้องการมาอยู่กับสโมสรที่เหมาะกับเขา และเขาได้มาอยู่กับทีมที่ใช่ คุณจะไม่เคยเจอเรื่องยุ่งยากในสนามซ้อมกับ คันโตน่า เลยแม้แต่น้อย หากจะนับคนที่มีบุคลิกแบบนี้ก็มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกคนที่ทำให้ทุกอย่างจัดการอย่างง่ายๆ ทั้งที่บุคลิคนั้นไม่ใช่
● ผิดพลาดกับการขายดาวดังดัทช์
เซอร์ยังบอกอีกด้วยว่า เขาเสียดายที่ขาย ยาป สตัม ออกไปจากทีมเร็วเกินไป เพราะซื้อ สตัม มาจาก พีเอสวี ซัมเมอร์ปี 1998 และช่วยทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ทันที โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่อยู่ใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สตัม คว้าแชม์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ กับ แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างละสมัย ก่อนจะโดนขายให้ ลาซิโอ ในราคา 15 ล้านปอนด์ (ราว 825 ล้านบาท) ปี 2001 ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เฟอร์กูสัน ไม่พอใจที่ สตัม เขียนหนังสือแฉเรื่องราวในทีม
เฟอร์กี้เล่าว่า เขาบอกเรื่องนี้กับ สตัม ตอนอยู่ในปั้มน้ำมัน และเป็นการสนทนาที่ลำบากใจสุดๆ “ผมรู้สึกแย่มากที่ต้องบอก สตัม ว่าเกี่ยวกับการตัดสินใจของผม เพราะผมรู้ว่าเขาต้องเสียใจมากแน่ ซึ่งพอนึกย้อนกลับไป การขายเขาก็ถือว่าเร็วเกินไปจริงๆ”
● เพื่อภรรยาถึงตัดสินใจเลิกคุมทีม
ส่วนการตัดสินใจรีไทร์ นั้น เซอร์ ยืนยันอีกครั้งว่า สาเหตุหลักที่ก็คือต้องการเคียงข้างกับ เคธี่ ภรรยาคู่ชีวิต หลังจากที่ บริดเจ็ต โรเบิร์ตสัน ฝาแฝดของเธอได้เสียชีวิตลงในเดือนตุลาคม ปี 2012
ซึ่งจริงๆ แล้ว เซอร์ยอมรับว่า อยากคุมทีมต่อไป แต่มีคืนหนึ่งที่ผมเห็นเธอ (เคธี่) ดูทีวี.อยู่ แล้วจากนั้นเธอก็เงยหน้ามองเพดาน ผมรู้ว่าเธอโดดเดี่ยว นับตั้งแต่ บริดเจ็ต จากไป ทำให้ผมตัดสินใจเลิกคุมทีม
ก่อนหน้านี้ เคธี่ เคยเกลี้ยกล่อมให้ เซอร์ ล้มเลิกแผนที่จะบอกลาการคุมทีมในปี 2002 แต่ครั้งนี้ผมรู้ดีว่าเธออยากให้ผมเลิกคุมทีมเพื่อใช้ชีวิตร่วมกัน
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี