เรื่องราวการบาดเจ็บของ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกจอมเซิ้งของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ กลายเป็นที่ทอล์กกันในวงกว้าง
ว่ามันจะเจ็บอะไรนักหนาขนาดนั้น
มันคงจะยากต่อการอธิบายว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับตัวของเขา เมื่อเขาบาดเจ็บไปแทบจะทั่วร่างกาย ประเด็นก็คือ เขาจะเจ็บมากแค่ไหน เจ็บขนาดไหน หรือมันเจ็บยังไงจนเล่นไม่ได้
เรียกง่ายๆ คือ เจ็บจนแหยง ประมาณนั้น
เจ็บน่าจะเจ็บจริง แต่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” พูดเป็นนัยๆ ว่า สเตอร์ริดจ์ จำเป็นต้องเรียนรู้ด้วยว่าอะไรคืออาการบาดเจ็บที่ร้ายแรง หรือแค่เจ็บเพียงเล็กน้อย
แต่ที่แน่ๆ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงนั้น สเตอร์ริดจ์ มีสถิติที่ดีในการถล่มประตู แต่การลงสนามของเขานั้นน้อยมาก
ลงเล่น 70 นัด พลาดลงเล่นไป 68 เกม
นี่มันครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หากจะนับเรื่องนักเตะที่บาดเจ็บแบบโชคร้ายสุดๆ ไม่มีใครจะหนักหนาสาหัสไปกว่า คีรอน ดายเออร์ อีกแล้ว!
ตลอดอาชีพการเล่นฟุตบอล ดาวเตะจากอิปสวิช ผู้นี้บาดเจ็บไปถึง 40 ครั้ง และมีการบาดเจ็บขั้นร้ายแรงแบบนับครั้งไม่ถ้วน
ดับอนาคตว่าที่ดาวโรจน์ของวงการลูกหนังอังกฤษไปอย่างน่าเสียดายที่สุด
ดายเออร์ แจ้งเกิดกับ “ม้าขาว” อิปสวิช ทาวน์ ทีมประจำบ้านเกิด และได้เซ็นสัญญาตั้งแต่วัย 17 ปี พร้อมกับสร้างสถิติต่างๆ มากมาย หลังจากอยู่ที่พอร์ทแมน โร้ด ในฐานะนักบอลอาชีพได้ 3 ปี ก็ย้ายมาอยู่กับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อปี 1999
เขาเป็นนักเตะคนเดียวที่เป็นชาวอังกฤษ ที่ถูก รุด กุลลิท ซื้อตัวมาในการคุมทัพนิวคาสเซิ่ล และแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว ด้วยวัยเพียง 21 ปี ก่อนที่หายนะจะเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2002 เขาเจ็บเป็นหนแรกที่หน้าแข้งจนต้องเข้าเฝือกอ่อน
จากนั้น ดายเออร์เริ่มบาดเจ็บตามจุดต่างๆ ของร่างกายทั้งน่อง, หลัง, เอ็นหลังเข่า ที่สำคัญเขาต้องเข้าเฝือกอ่อนอีกถึง 2 ครั้ง ก่อนจะบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าถึง 8 ครั้ง ติดต่อกันระหว่างเดือนสิงหาคม 2003-กันยายน 2004
จนย้ายมา เวสต์แฮม เมื่อปี 2007 หายนะก็มาเยือนเมื่อเขาถูก โจ ยาค็อบสัน ของบริสตอล โรเวอร์ส พุ่งเข้าเสียบจนขาขวาหักสองท่อน ในเกมลีกคัพ และจากนั้นเป็นต้นมา เราไม่เคยเห็น ดายเออร์ คนเดิมที่เคยเก่งกาจอีกเลย
เขาถูกปล่อยตัวออกจากอัพตัน พาร์ค เมื่อหมดซีซั่น 2010-11 พร้อมกับสถิติที่ไม่น่าจำนั่นคือ เวสต์แฮม ต้องจ่ายเงินให้กับเขา
เฉลี่ยเกมที่ลงเล่นถึง 450,000 ปอนด์ นั่นก็เพราะอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างหนักนั่นเอง
เขากลับไปซับน้ำตากับ อิปสวิช รังเก่า ในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะได้สัญญา 1 ปี กับ “ทหารเสือราชินี” ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส
แต่แค่ 3 นาที ในการลงเล่นนัดเปิดตัวกับ โบลตัน เขาบาดเจ็บหนักที่ข้อเท้าและพักยาวตลอดปี!!!!
ลงท้ายการอยู่กับ ควีนส์พาร์ค 2 ปี ลงเล่นรวม 8 นัด แต่ก็ยังไว้ลายเสือด้วยการยิงประตูแรกของตัวเองในรอบ 6 ปีได้สำเร็จ เมื่อต้นปี 2013 แต่ให้หลังแค่ 3 วัน เขาถูกยกเลิกสัญญากับทางสโมสร
ก่อนจะมาอยู่กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ เป็นที่สุดท้าย และเลิกเล่นไปในปีนั้น
นี่คือมนุษย์ที่สาหัสที่สุดในเรื่องของนักเตะบาดเจ็บ เจ็บจนเรื้อรัง เจ็บจนหมดอนาคต ส่วนคนอื่นล่ะ มีอีกหลายคนที่เป็นแบบ
ดายเออร์ อีกหลายคนเลยทีเดียว..........
● โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
ดาวดังหลายสัญชาติ ที่เลือกเล่นให้กับ ทีมชาติอังกฤษ โด่งดังมากับ บาเยิร์น มิวนิค แห่งเยอรมนี เขาเล่นมิดฟิลด์ตัวรับได้สุดยอด และโชว์ฟอร์มให้กับอังกฤษ ได้ดีในบอลโลก 2006 แต่สุดท้ายเขาก็โชคร้ายแบบสุดๆ
ฮาร์กรีฟส์ ขาหักเมื่อปี 2007 จากนั้นเขาก็ไม่สามารถจะกลับมาเล่นได้ดีอีกเลย โดยเฉพาะการอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด บาดเจ็บยาวนานกว่า 2 ปี ก่อนจะกลับมาเล่นได้แค่ 6 นาทีก็ต้องเปลี่ยนตัวออก จากนั้นมาอยู่กับ แมนฯซิตี้ แต่ก็เล่นได้แค่นัดเดียวเท่านั้น
● ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน
ยอดปีกอนาคตไกลของวงการลูกหนังอังกฤษ เติบโตและโด่งดังมาจาก “ปอมปีย์” พอร์ทสมัธ แต่สุดท้ายเขาเจ็บบ่อยครั้งจนได้รับฉายาเป็นต้นตำรับแห่ง “Sicknote”
แอนเดอร์ตัน มีอาการบาดเจ็บบ่อยที่สุดคือ 3 จุดใหญ่ด้วยกันนั่นคือ ขาหนีบ, ไส้เลื่อน และหัวเข่า จนทำให้ไม่สามารถพัฒนาอะไรไปได้มากนัก ทั้งที่ระดับฝีเท้าของเขาน่าจะไปไกลระดับโลกด้วยซ้ำ
● เล็ดลี่ย์ คิง
ปราการหลังระดับกัปตันทีมชาติอังกฤษได้แบบสบายๆ เพราะเขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมกับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส แต่สุดท้ายเขาต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร
สเปอร์ส ถนอมให้แบบไม่ต้องซ้อมหนัก เพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ แต่จนแล้วจนรอดเขาเจ็บบ่อยที่หัวเข่า จนกลายเป็นอาการเรื้อรัง และก็ต้องยุติอาชีพนี้ไป ทั้งที่จริงๆ แล้วเซนต์บอลของเขา ไม่ได้ต่างอะไรกับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แม้แต่น้อย
● ไมเคิล โอเว่น
ดาวยิงเจ้าของสถิติต่างๆ มากมาย ที่แม้ในตอนท้ายเขาจะกลายเป็นคนที่โลกลืม เมื่อเลือกมาอยู่กับ แมนยูฯ ทั้งที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งเรื่องความเป็น “คนทรยศ” หรือ “คนไร้ศักดิ์ศรี” และ “คนไม่มีจุดยืน” ปกปิดเรื่องบาดเจ็บของเขาหมดสิ้น
โอเว่น เจ็บออดๆ แอดๆ ตั้งแต่อยู่กับ ลิเวอร์พูล บริเวณเอ็นหลังเข่า จากนั้นเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ที่ เรอัล มาดริด, นิวคาสเซิ่ล รวมถึงเจ็บหนักในบอลโลก แม้กระทั่งช่วงมาอยู่กับ แมนยูฯ และสโต๊ค เขาก็เจ็บหนักจนต้องเลิกเล่นด้วยวัยแค่ 33 ปี
● ดีน แอชตัน
หัวหอกของ เวสต์แฮม ที่ทุกคนที่เป็นชาวอังกฤษ เห็นเงา อลัน เชียเรอร์ ในตัวของเขาชัดเจนมากๆ และก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษแล้ว 1 นัด แต่หลังจากนั้นความหวังของเขาก็หมดไปเมื่อถูก ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ เข้าสกัดจนข้อเท้าหักในการซ้อมทีมชาติ ทำให้เขาหมดอนาคตทันที
แอชตัน กลับมาลงเล่นแล้วไม่เหมือนเดิม เขาเจ็บเป็นปี ก่อนที่สุดท้ายจากต้องเลิกเล่นด้วยอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น และเล่นให้ เวสต์แฮม ได้แค่ 46 นัด ตลอด 5 ปี ถือว่าน่าเสียดายมากๆ
● อาบู ดิยาร์บี้
ห้องเครื่องที่เจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บจนไม่มีใครอยากเชื่อ หลังจากเขาเปิดตัวกับอาร์เซนอล ได้อย่างยอดเยี่ยม และทำท่าว่าจะเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมต่อจาก ปาทริค วิเอร่า แต่อาการบาดเจ็บของเขานั้น ได้พรากเอาทุกอย่างไปแล้ว
ดิยาร์บี้ เจ็บแบบนับครั้งไม่ถ้วน และลงเล่นในลีกเพียง 25 นัด ในช่วง 8 ปี เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าด้านซ้าย จนสุดท้ายต้องถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังจากอยู่นานถึง 9 ปี
● มิกาแอล เอสเซียง
จากนักเตะที่ว่ากันว่า “ฟ้าผ่าแค่ตัวร้อน” แต่ในยุคปัจจุบัน เอสเซียง กลายเป็นนักเตะธรรมดาคนหนึ่งที่พร้อมจะบาดเจ็บอยู่ตลอดเวลา นับตั้งแต่ปี 2009
เอสเซียง เจ็บหนักที่ “เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาด” ต้องพักยาวถึงครึ่งปี จากนั้นเขาก็เจ็บซ้ำไปซ้ำมาในที่เดิม สุดท้ายเขาต้องเข้าๆ ออกๆ ในทีมชุดใหญ่ 5 ครั้ง ได้เล่นจริงเพียง 15 เกม เพราะอาการบาดเจ็บครั้งสำคัญหนนั้นนั่นเอง
● เวส บราวน์
บนความตลกโปกฮา ที่หลายคนได้เห็นความผิดพลาดในการเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าของ “น้องน้ำตาล” แต่ที่จริงแล้ว เขาต้อง “เสียน้ำตา” กับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง ไม่แพ้นักเตะคนอื่นเลยทีเดียว
บราวน์ มีปัญหาที่เท้า และหัวเข่า ทำให้เขาต้องประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บ บวกกับฟอร์มการเล่นทำให้ถูกขายมายัง ซันเดอร์แลนด์ แต่ระยะเวลาเพียง 2 ปี บราวน์ ต้องเจ็บมากถึง 20 ครั้ง เพราะปัญหาเอ็นไขว้
หน้าหัวเข่าขาดนั่นเอง
● โทมัส แฟร์มาเล่น
ปราการหลังซ้ายมหากาฬ มีปัญหาเจ็บมาตั้งแต่อยู่กับ อาแจ๊กซ์ เคยพลาดลงเล่นถึง 16 เกมรวด เมื่อปี 2008 ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ อาร์เซนอล ก็ดุเหมือนว่าจะไม่มีอะไรจนกระทั่งปี 2010
เขาเจ็บเอ็นร้อยหวาย ต้องพักยาวถึง 233 วัน รวม 51 นัด จนกระทั่งถูก บาร์เซโลน่า
ซื้อตัวเมื่อช่วงปิดซีซั่นที่แล้วทั้งที่ยังมีอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา และกลับมาเล่นได้เดี๋ยวเดียวก็เดี้ยงซ้ำพักไปยาวอีกถึง 35 นัดเลยทีเดียว
คีรอน ดายเออร์ เจ็บหนักสุดในวงการลูกหนัง
ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน ต้นตำรับซิคโน๊ต
เล็ดลี่ย์ คิง เจ็บจนต้องแขวนสตั๊ดไปอย่างน่าเสียดาย
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ เพชรเม็ดงามที่เจ็บหนักจนต้องเลิก
ดีน แอชตัน หัวหอกอนาคตไกลที่ต้องเลิกเล่นก่อนวัยอันควร
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี