30 กรกฎาคม 1966 อังกฤษ ครองแชมป์ฟุตบอลโลกได้เป็นสมัยแรก ด้วยการปราบ “อินทรีเหล็ก” เยอรมันตะวันตก คู่ปรับตลอดกาลในทุกๆ เรื่องไปได้ 4-2
บันทึกช่วยจำจากเกมนั้นระบุชัดเจนว่า เจฟฟ์ เฮิร์สท์ เป็นคนแรกและคนเดียวจนถึงวันนี้ที่ยิงแฮททริคได้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก พร้อมกับอาถรรพ์ประตูผี ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผัดไท เอาไว้อีกด้วย
นั่นคือลูกยิงชนคานกระเด้งลงมา ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกว่าข้ามเส้นหรือยัง แต่ได้ประตูนั้นขึ้นนำ 3-2
จากนั้นเป็นต้นมา มีแต่คนบอกว่า อังกฤษ ต้องใช้กรรมเก่าของตัวเอง ก็คือเคยโกงเค้าไว้ลูกนั้น ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จใด ๆ ซะที
มาถึงวันนี้ ผมแน่ใจและมั่นใจว่า เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องบุญธรรมกรรมแต่ง หรือกรรมเก่าอย่างที่เข้าใจแล้วล่ะ เลิกคิดเรื่องนั้นกันได้แล้ว
เพราะอังกฤษก็ล้างบมลทินนี้ไปหมดแล้ว เมื่อครั้งแพ้ เยอรมนี 1-4 ในบอลโลก ฉบับแอฟริกาใต้ ปี 2010 ด้วยการยิงเข้าไปของ แฟรงค์ แลมพาร์ด แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู
น่าจะล้างบาปล้างเลือดกันไปแล้ว
แต่นั่นละฮะ ความห่วยของอังกฤษ ความอวยชัยของสื่อตัวเองนั้นช่วยไม่ได้จริง ๆ
ทุกรายการทุกทัวร์นาเมนท์ อังกฤษ จะเป็นเต็งลำดับต้น ๆ ตลอด ที่จำความได้มีแค่ ฟุตบอลโลก 2014 ที่ไม่ติดม้าเต็ง และก็กลับบ้านตั้งแต่รอบแรก
ที่เหลือเป็นเต็งทุกครั้ง และก็ตายทุกครั้งเช่นกัน!
ไทม์ไลน์นับตั้งแต่เป็นแชมป์โลก ปี 1966 อังกฤษ มีแต่ผิดหวัง อกซ้ำบ่อยจนไม่รู้จะนำคำพูดไหนมาเปรียบเทียบ
หลังจากครองแชมป์โลกสำเร็จ อังกฤษ ก็ผ่านเข้ารอบสุดท้ายยูโรได้เป็นสมัยในแรกเมื่อปี 1968 แต่แพ้ ยูโกสลาเวีย 0-1 ในรอบตัดเชือก ก่อนจะได้ที่ 3 ด้วยการชนะ สหภาพโซเวียต 2-0
บอลโลก 1970 ไปป้องกันแชมป์แต่ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อพ่าย เยอรมันตะวันตก 2-3 ทั้งที่นำก่อน 2-0 และจากนั้นเป็นช่วงเวลาที่ผลัดใบ อังกฤษ ไม่ผ่านการคัดเลือก 4 รายการติดทั้ง ยูโร 1972 กับ 1976 และบอลโลก 1974 และ 1978
มาถึงยูโร 1980 ผ่านคัดเลือกมาแต่ก็ตกรอบแรก จากนั้นอีก 4 ปีก็คัดไม่ผ่านอดไปเล่น ยูโร 1984
ขณะที่เกมฟุตบอลโลก ปี 1982 เข้าไปตกรอบแบ่งกลุ่ม รอบ 2 และมาในบอลโลก 1986 ก็โดนแฮนด์ ออฟ ก็อดของ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตกรอบ 8 ทีม
ยูโร 1988 ตกรอบแรกแบบแพ้เรียบวุธ, บอลโลก 1990 ฟอร์มดีสุดตั้งแต่ได้แชมป์โลกเมื่อเข้าถึงรอบตัดเชือก แพ้จุดโทษ เยอรมันตะวันตก ก่อนจะได้ที่ 4 แบบน่าประทับใจ แต่ก็ไปตกรอบแรกสบายในยูโร 1992
บอลโลก 94 ไม่ได้ไปเล่นเพราะพังตั้งแต่รอบคัดเลือกเป็นที่มาของคำว่า “หัวผักกาด”ของ เกรแฮม เทย์เลอร์ ก่อนจะฟื้นตัวในยูโร 1996 ยุค “เอลเทล”เทอร์รี่ เวนาเบิ้ลส์ แต่แพ้จุดโทษ เยอรมนี ตกรอบรองชนะเลิศ
ยูโร 2000 ในยุค “ไมตี้เมาส์” เควิน คีแกน กอดคอกับ เยอรมนี คู่ปรับตกรอบแรกสบาย ตามด้วยบอลโลก ปี 2002 โดนลูกยิงลักไก่ของ โรนัลดินโญ่ ร่วงรอบ 8 ทีมเวิลด์คัพฉบับเอเชีย
ปี 2004 ร่วงรอบ 8 ทีมยูโร ด้วยการแพ้จุดโทษ โปรตุเกส และแผลเดิมโดนแกะสะเก็ดอีกทีในบอลโลก 2006 แพ้จุดโทษ โปรตุเกส ตกรอบ 8 ทีมอีกที ทำให้ สเวน โกรัน เอริคส์สัน ต้องไปจากทีม
ปี 2008 อดไปยูโร ด้วยการคุมทีมของ สตีฟ แม็คลาเรน และในบอลโลก ปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ ตกรอบ 2 เมื่อแพ้ เยอรมนี ราบพนาสูญ 1-4
ปี 2012 ตกรอบ 2 ยูโร ด้วยการแพ้จุดโทษ อิตาลี และล่าสุดปี 2014 ตกรอบแรกในเวิลด์คัพ ที่บราซิล
มาในครั้งนี้ก็ไม่ถึงฝั่งฝัน แพ้ให้กับ ไอซ์แลนด์ 1-2 ยุติเส้นทางเพียงแค่รอบ 2 เท่านั้น
....คนแพ้อะไรมันก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ คนก็จะชำแหละโน่นนี่นั่น ตั้งแต่เลือกนักเตะมาจนแผนการเล่น ก็อย่างที่เคยว่าเอาไว้ สั้นๆง่าย ๆ แฟนบอลหวังกับอังกฤษทุกครั้งมากเกินไปหรือเปล่า
ที่สำคัญก็คือ อังกฤษ มีนักเตะในตำแหน่งเดียวกันหลายคนและผลของการ”ทับซ้อน”กัน กลายเป็น”แผลกดทับ” อาทิตำแหน่งของ เวย์น รูนี่ย์ กับ เดเล่ อัลลี่ ที่ต้องเลือกหนึ่งคนแต่ถ้าตัดใครไปก็ไม่ได้
ตัวเล่นด้านข้างไม่มี ผิดธรรมชาติของอังกฤษ อีกทั้งนักฟุตบอลตำแหน่งต่าง ๆ เป็นผู้เล่นระดับเกรด บี ชัดเจนที่สุดคือ ปราการหลังทั้งแผง
ยิ่งขุดยิ่งคุ้ยยิ่งเจ็บลึกถึงเซี่ยงจี้ เพราะอังกฤษคือทีมที่จัดที่พักแพงที่สุด ใช้ของหรูที่สุด แต่กลับไปไม่สุด และสุดท้ายขอยกตัวอย่าง ไฮเมียร์ ฮัลล์กริมส์สัน กุนซือคนคู่ของ ลาร์ส ลาร์เกอร์บัค แห่ง “ขุนแข้งแห่งแสงเหนือ”
แกรับงานพาร์ทไทม์เป็น”หมอฟันทันตแพทย์”รายได้แทบไม่มี เมื่อเทียบกับ รอย ฮอดจ์สัน กุนซือสิงโต ที่ได้รับเงินถึง 3.5 ล้านปอนด์ต่อปี
สลบเหมือดจบข่าว...บุญมา ศรีหมาด อ่าน!!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี