บางทีการเป็น ยอดผู้ช่วยโค้ช ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นยอดกุนซือแต่อย่างใด... และสิ่งนี้ก็การันตีให้เห็นอีกครั้ง กับทีมชาติไทย ชุดยู-23 ภายใต้การคุมทีมของ โซรัน ยานโควิช กุนซือชาวเซอร์เบีย
นับเป็นความล้มเหลวอีกครั้ง หลังทัพ “ช้างศึก” รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต้องอกหักร่วงตกรอบ ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศจีน ด้วยผลงานงามหน้าพ่ายครบทั้ง 3 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม เริ่มจาก แพ้เกาหลีเหนือ 0-1 ตามด้วยแพ้ญี่ปุ่น 0-1 และนัดสุดท้ายโดนปาเลสไตน์ถล่มเละ 5-1 ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอลชาวไทยทั่วทั้งประเทศ
หลังจากสร้างความฮือฮาด้วยการพาทีมเอาชนะ ทีมชาติ ญี่ปุ่น ในศึก เอ็ม-150 คัพ 2-1 ปรากฏว่าหลังจากนั้น ... 8 นัดหลังสุด ผงานทีมชาติไทยภายใต้การคุมทัพ โค้ชโซรัน มีดังนี้
ไทย 0-1 เกาหลีเหนือ (เอ็ม-150 คัพ 2017)
ไทย 1-2 เวียดนาม (เอ็ม-150 คัพ 2017)
ไทย 0-1 ชลบุรีฯ (อุ่นเครื่อง)
ไทย 0-1 พัทยาฯ (อุ่นเครื่อง)
ไทย 1-2 ออสเตรเลีย (อุ่นเครื่อง)
ไทย 0-1 เกาหลีเหนือ (ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018)
ไทย 0-1 ญี่ปุ่น (ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018)
ไทย 1-5 ปาเลสไตน์ (ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018)
ย้อนกลับไปหลังจบศึก ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย ไทยในฐานะเจ้าของเหรียญทอง มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการเปลี่ยนหัวหน้าผู้ฝึกสอนจาก “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่อยู่กับทีมมานานเป็นปีออกมาเป็นมือขวา พร้อมกับตั้ง โซรัน ยานโควิช ดีกรียูฟ่าโปรไลเซ่นส์ มือขวาของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชุดใหญ่ ก้าวเข้ามาทำทีมชุดนี้แทน
ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงโค้ช แน่นอนว่าการลงฝึกซ้อมในสนามนั้นก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา และนั่นทำให้แม้ว่าทีมชุดนี้จะมีการเก็บตัวกันมาอย่างยาวนาน แต่อย่างที่เราเห็นก็คือ รูปแบบแท็กติกการเล่นนั้นดูจะไม่ชัดเจน จะบุกก็ไม่ไหลลื่น จะรับยังดูไม่เหนียวแน่น ยิ่งการต่อบอลด้วยแล้วแทบน้อยครั้งมากที่ไทยจะครองบอลได้นานๆ ซักครั้ง หรือเรียกง่ายๆ ว่าบอลไม่มีทรงนั่นล่ะครับ
โอเคล่ะ ทีมชาติไทย นั้นอาจจะเพิ่งจะก้าวเข้ามาสู่การลงแข่งในระดับ เอเชีย แบบเต็มตัว หลังก่อนหน้านี้ นั้นแทบจะไม่เคยก้าวผ่านมาถึงรอบสุดท้ายในระดับนี้ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ การไร้ดาวเตะคนสำคัญถือเป็นอีกปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนผลการแข่งขัน อาจเป็นได้ว่า ศึกชิงแชมป์เอเชีย ไม่ได้ผ่านการรับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ดังนั้น สโมสรมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยนักเตะให้กับทีมชาติ เช่นเดียวกับทีมชาติไทยครั้งนีมีตัวหลักจากซีเกมส์ถอนตัวและไม่ติดทีมชุดนี้หลายราย ความไหลลื่นในการขึ้นเกม ความเข้าใจในทีมจึงน้อยลงไป
สิ่งเหล่านี้อาจไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้แข้งไทยฟอร์มบู่ สู้ใครไม่ได้ในถ้วยเอเชีย อาจยังมีปัจจัยอื่น อาทิ สภาพจิตใจ ความสามารถนักเตะ อาหารการกิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลชี้ให้เห็นว่าถึงตอนนี้ไทยยังไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จระดับทวีป ซึ่งการพ่ายแพ้ครั้งนี้ คงสร้างบทเรียนให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลชุดนี้ได้เห็นอะไรมากขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย ก่อนที่การแข่งขัน เอเชี่ยนเกมส์ ในช่วงปลายปีนี่ที่ประเทศอินโดนีเซีย จะเริ่มขึ้น ซึ่งทีมชุดนี้แหละจะเป็นแกนหลักต่อไป
ถึงเวลานี้เชื่อว่าอนาคตของ โซรัน นั้นคงดับลงไปแล้วกับทีมชุดนี้ แต่ที่น่าสนใจคือใครล่ะที่จะเหมาะสมกับการเข้ามาเป็นกุนซือคนต่อไป ที่จะดึงศักยภาพของเด็กชุดนี้ออกมาได้มากที่สุด อย่างน้อยๆ ในช่วงเอเชี่ยนเกมส์ นั้นแว่วมาว่าจะใช้ มิโลวาน ราเยวัช ลงมาทำหน้าที่เฮดโค้ชเองเลย ถ้าท้ายสุดผลงานดีก็มีโอกาสเช่นกันที่จะให้ กุนซือชาวเซิร์บ ควบทำทั้งสองชุดไปเลย
แต่ท้ายสุดหากผลงานยังคงเป็นเช่นเดิม คำที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนังไทย เคยกล่าวไว้กับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือช้างศึก ว่า “ผมอายกับผลงานที่เกิดขึ้น”
อาจจะได้กลับมาใช้อีกครั้ง
กาลอป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี