การแข่งขันฟุตบอลอาชีพฤดูที่ 22 ผ่านมา10 นัด ย่างเข้าเดือนที่ 3 แล้ว ปัญหาใหญ่คือจำนวนคนดูไม่สามารถสร้างเม็ดเงินได้มากเหมือนซีลีก หรือไชนีสซูเปอร์ลีก และเจลีกของญี่ปุ่น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดในไทยลีกเหมือนกับวีลีก เวียดนาม, อินโดนีเซียนลีก, เคลีกของเกาหลีใต้, เอ็มลีกมาเลเซีย ความนิยมไม่สามารถดึงความสนใจของตลาดได้ ในขณะที่แฟนฟุตบอลของทุกชาติยังให้ความสนใจลีกยุโรปมากกว่า
แฟนฟุตบอลชนชั้นกลางและชนชั้นสูงในประเทศเอเชียหลายๆ ล้านคน มักนิยมเดินทางไปชมฟุตบอลลีกถึงสนามในยุโรปมากกว่า สินค้าอุปโภคบริโภคในหลายชาติมีการเสนอผ่านสื่อในสนามฟุตบอลด้วยวงเงินนับพันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งมันไม่สามารถสร้างฐานคะแนนนิยมฟุตบอลให้ทีมในประเทศยกเว้นที่จีนและญี่ปุ่น
ยอดคนดูในไทยลีกปีที่แล้ว 2017 หรือ 2560 มียอดคนดู 1,399,728 คน เฉลี่ยนัดละ 4,604 คน มียอดลดลงมาก วีลีกเวียดนามมีคนดู 1,017,700 คน เฉลี่ยนัดละ 5,592 คนทั้งๆ ที่เวียดนาม มีประชากร 96 ล้านคน เอ็มลีกมาเลเซียมีคนดู 881,178 คน เฉลี่ยนัดละ 6,676 คนอินโดนีเซียนลีก มีคนดู 2,664,789 คน เฉลี่ยนัดละ8,708 คน มียอดประชากรมากกว่า 260 ล้านคนเคลีกเกาหลีใต้ มีคนดู 1,483,150 คน เฉลี่ยนัดละ6,505 คน เจลีกญี่ปุ่น มียอดคนดู 5,778,178 คนเฉลี่ยนัดละ 18,883 คน ซีลีกของจีน มีคนดูรวม5,703,854 คน เฉลี่ยต่อนัด 23,766 คนในขณะที่จีนมีประชากรมากถึง 1,400 ล้านคน
ไทยลีกมีสภาวะถดถอยเห็นชัดเจนมากในปี 2018 มีสถิติคนดูไม่ดีเท่าไหร่ ผ่านมา 10 นัดในวันที่ 11 เม.ย. มียอดคนดูรวม 456,882 คนเฉลี่ยนัดละ 5,076 คน นครราชสีมามาสด้ามียอดรวมสูงสุด 64,190 คน เฉลี่ยนัดละ12,838 คน รองลงมา คือ แชมป์ 5 สมัยบุรีรัมย์59,737 คน เฉลี่ยนัดละ 9,956 คน อันดับ 3อดีตแชมป์ 4 สมัย เอสซีจีเมืองทอง มีคนดู48,572 คน เฉลี่ยนัดละ 8,095 คน
ประเทศไทยมียอดคนดูฟุตบอลลีกต่ำเหมือนอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เวียดนาม, เกาหลีใต้ เพราะความนิยมฟุตบอลลีกยุโรปมากกว่า เมื่อตรวจสถิติคนดูจะพบว่าฟุตบอลไทยลีกตั้งแต่ทีหนึ่งถึงสี่ ส่วนมากนับร้อยทีมไม่สามารถเลี้ยงตัวได้มีที่กำไรมากพอจริงๆ แค่ทีมเดียว คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้น โดยเฉพาะรายได้จากการขายเสื้อฟุตบอลของปราสาทสายฟ้าทำรายรับสูงมากบางปีมียอดขายมากกว่า 600 ล้านบาทเลยทีเดียว
สถิติยอดคนดูที่เก็บไว้ 7 ปีที่ผ่านมามีดังนี้ ปี 2011 หรือ 2054 มีคนดู 1,392,011 คนปี 2012 มี 1,475,769 คน ปี 2013 คนดู 1,657,887 คน ปี 2014 คนดู 1,911,277 คนปี 2015 เป็นปีที่มียอดคนดูมากที่สุด 1,926,278 คนปี 2016 มีคนดู 1,503,600 คน และปี 2017 คนดู 1,399,728 คน
แนวโน้มของปี 2018 นั้น ยอดคนดูอาจจะมากกว่าปีที่แล้วแต่ก็ไม่มากถึง 2 ล้านคนจำนวนคนดูจะอยู่ที่ยอด 1.5 ถึง 1.6ล้านคนเท่านั้น ซึ่งไม่มากพอที่จะทำให้สโมสรอยู่รอดได้ อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าไทยลีกไม่ล้มไม่ตายแต่จะเลี้ยงไปไม่โตเพราะขาดความนิยมเหมือนฟุตบอลลีกในยุโรป
สำหรับสถิติ 10 นัด ที่ผ่านมานั้น ปราสาทสายฟ้าบุรีรัมย์ชนะ 8 ครั้ง เสมอ 2 ครั้งทำสถิติไม่แพ้ติดต่อกัน 10 นัด มี 26 คะแนนยิงได้รวม 21 ประตู เสีย 8 ประตู ตามด้วยพีทีประจวบเอฟซีน้องใหม่จากไทยลีกสองทำได้ 19 คะแนน ตาม 6 คะแนน มีสถิติชนะ 6 ครั้งเสมอ 1 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ยิงได้ 22 เสีย 15อันดับ 3 เป็น ทรู แบงค็อกยูไนเต็ด มี 18 คะแนน ชนะ 5 ครั้ง เสมอ 3 ครั้ง แพ้ 2 ครั้ง ยิงได้ 20 ประตูเสีย 14 ประตู เท่ากับเมืองทอง ที่ชนะ 5เสมอ 3 แพ้ 2 ยิงได้ 17 เสีย 16มี 18 คะแนน
ดาวซัลโว ได้แก่ ดิโอโก้ลูอิส ซังตูร์ ดาวเตะบราซิล วัย 30 ปีที่ค้าแข้งกับทีมบุรีรัมย์มา 4 ฤดูเขายิงให้ปราสาทสายฟ้ามาแล้ว 104 ประตู ในฟุตบอลลีกเขายิงได้ 80 ประตู และปี 2018 นี้ เขายิงได้แล้ว 12 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด รองลงมา ได้แก่ เนลสัน บอนนิล่านักเตะเอลซัลวาดอร์ของค้างคาวไฟสุโขทัย ยิงได้รวม 9 ประตู
นักเตะต่างชาติมีทั้งหมด 83 คนสัญชาติบราซิล ได้รับความนิยมสูงสุดรวม 29 คน ที่เหลือมาจากนานาชาติรวม 54 คน ในกลุ่มนี้ มีนักเตะกลุ่มอาเซียน รวม 11 คน ในขณะที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยสืบเนื่องจากผลงานและกติกาปีนี้ที่หินมากๆ นั่นคือสมาคมฟุตบอลฯให้มีทีมตกชั้นไปไทยลีกสองถึง 5 สโมสร จาก 18 สโมสรผ่านมา 10 นัด มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหัวหน้าผู้ฝึกสอนรวม 10 คนแล้วดังนี้ คือ
1.คริสเตียน ซีเก้ เยอรมันสโมสรราชบุรีมิตรผล 2.เรอเน่ เดอซาเยียร์ เบลเยียม สโมสรราชบุรีมิตรผล 3.โจเซฟ แฟร์เร สเปน สโมสรบางกอกกล๊าส 4.สก๊อตคูเปอร์ ไอริช สโมสรโปลิศเทโร 5.ดราโก้ มามิค โดรเอเชีย ชัยนาทฮอร์นบิล 6. สะสม พบประเสริฐ แอร์ฟอร์ซ 7.โกรัน บาจาทาเรวิค เยอรมนีของชลบุรีเอฟซี 8.ธชตวันศรีปาน เมืองทองยูไนเต็ด 9.วิริยะ เผ่าพันธุ์ ราชนาวีสโมสร 10.ชำนาญ แพรขุนทด ราชนาวีสโมสร
โค้ชใหม่ที่เข้ามาส่วนใหญ่ยังไม่ถาวร คือ แอร์ฟอร์ซ แอนดรูว์ อ๊อร์ดอังกฤษ, อำนาจ แก้วเขียว บางกอกกล๊าส,จักรพันธุ์ ปั่นปี ชลบุรีเอฟซี, สันติไชยเผือก เมืองทองยูไนเต็ด, รังสรรค์วิวัฒน์ไชยโชค โปลิศเทโร, สมชาย ไม้วิไลราชบุรีมิตรผล และโค้ชที่ทำผลงานดีเหลือเชื่อ คือ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ของพีทีประจวบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี