12 มิ.ย.61 “แซมบ้า” บราซิล เดินทางมาสร้างประวัติศาสตร์บนแผ่นดินไวกิ้ง โดยเป็นทีมแรกที่ได้แชมป์นอกทวีป และนี่คือปฐมบทของการครองแชมป์โลกสมัยแรกของพวกเขา
พร้อมกับกำเนิดซูเปอร์สตาร์แห่งวงการลูกหนังที่ครองแชมป์โลก ด้วยวัยเพียง 17 ปี 249 วัน ที่ชื่อว่า “เอ๊ดสัน อรันเตส เดอ นาซิเมนโต้” หรือที่โลกรู้จักกันจนถึงทุกวันนี้ว่า…..เปเล่!!!
เปเล่ ได้โอกาสลงเล่นครั้งแรก คือการออกสตาร์ทรอบแรกนัดสุดท้ายพร้อมๆ กับ “นกน้อย” การ์รินช่า ในเกมกับ สหภาพโซเวียต นั่นคือสิ่งที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอลไปตลอดกาล
ก่อนที่ เปเล่ จะเร่งเครื่องยิงในรอบน็อคเอาท์ และระเบิดแฮททริคในเกมรอบตัดเชือกกับ ฝรั่งเศส และยิงสองประตูสุดสำคัญในนัดชิงชนะเลิศที่โค่น สวีเดน 5-2
ทั้งหมดทั้งมวลมาจากการที่ เปเล่ ในวัย 9 ขวบ เมื่อปี 1950 เขาได้เห็นน้ำตาของคุณพ่อเป็นครั้งแรกในชีวิต กับ "โศกนาฏกรรมทางฟุตบอล" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
บราซิล พลิกล็อคแพ้ในนัดชิงดำให้กับ อุรุกวัย 1-2 ที่ชามอ่างยักษ์ "มาราคาน่า สเตเดี้ยม"
ในรอบไฟน่อล ที่ต้องแข่งแบบแบ่งกลุ่ม พบกันหมด อุรุกวัย เกือบจะเอาตัวไม่รอดเป็นฝ่ายที่ไล่ตามตีเสมอ สเปน แบบสุดมันส์ 2-2 ส่วนนัดที่สองสามารถเฉือนเอาชนะ สวีเดน ไปแบบหวุดหวิด
3-2 นเกมนี้ ออสการ์ มิเกล ทำคนเดียวสองประตู
ในเกมนัดสุดท้ายถือว่าเป็นนัดชิงอย่างแท้จริงเจ้าภาพ บราซิล ที่มี 4 คะแนนจากการเก็บชัยชนะมาได้ 2 นัดรวด (ชนะ สวีเดน 7-1, ชนะ สเปน 6-1) ส่วน อรุกวัยมีแค่ 3 แต้ม (เสมอ สเปน 2-2,
ชนะสวีเดน 3-2) ทำให้ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น
เกมฟาดแข้งกันที่ เอสตาดิโอ โด มาราคาน่า ท่ามกลางแฟนบอลเฉียด 200,000 คน ทัพแซมบ้าได้ประตูออกนำก่อน แต่ทว่า อุรุกวัย มาทำสองประตูรวดจาก ฮวน อัลแบร์โต้ เคียฟิโน่ และอัลซิ
เดส กิกเกีย พลิกแซงเอาชนะ 2-1 คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นสมัยที่สอง ทำเอาแฟนบอลเจ้าภาพน้ำตาท่วม มาราคาน่า
จนเป็นที่มาของ Maracanazo หรือน้ำตาแห่งมาราคาน่า
ครั้งนั้น เปเล่ และพ่อของเขา "ดอนดินโญ่" ติดตามชมเกมผ่านทางโทรทัศน์ เพราะไม่มีเงินซื้อตั๋วเข้าไปชมเกม เนื่องจากครอบครัวที่ยากจน ซึ่ง เปเล่ บอกว่า เขาไม่เคยเห็นพ่อร้องไห้มาก่อน ไม่ว่า
จะเป็นจากการทำงานที่หนัก บาดเจ็บจากฟุตบอลจนต้องเลิกเล่น และมาทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดที่โรงพยาบาล หรือกระทั่งต้องอดมื้อกินมื้อ แต่พ่อก็ไม่เคยร้องไห้ให้ครอบครัวเห็น
แต่ในวันนั้น เปเล่ หรือ "ดีโก้" ได้เห็นพ่อร้องไห้ เมื่อทีมชาติบราซิลไม่ได้แชมป์โลก สมัยแรก
ทำให้เป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพในกาลต่อมา........
พร้อมกับกลายเป็นบุคคลแห่งตำนานของวงการลูกหนังโลกตลอดไป.........
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี