ระเบิดความเป็น “ซูเปอร์สตาร์” ออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ในเกมนัดเปิดสนาม ซึ่งเป็นเกมที่ยากที่สุดของการแข่งขันครั้งนี้ของพวกเขาในรอบแรก
“เจ๊ตโด้” ทำสถิติเกิดขึ้นอย่างมากมายแฮททริกที่ 51 ในชีวิตการค้าแข้งของ โรนัลโด้ พร้อมกับทำสถิติอายุมากที่สุดยิงแฮททริกบอลโลก 33 ปี 130 วัน
กลายเป็นนักเตะคนแรกของโลก ที่ยิงได้ในรายการใหญ่ 8 ทัวร์นาเมนท์ติดต่อกัน
พร้อมกับเป็นนักเตะคนที่ 4 ของโลก ที่ยิงได้ในบอลโลก 4 สมัย ต่อจาก เปเล่(บราซิล), โคลเซ่ (เยอรมนี) และอูเว่ ซีเลอร์(เยอรมันตะวันตก)
โปรตุเกส กับ สเปน สร้างสรรค์ฟุตบอลที่เป็น“ฟุตบอล” ออกมาได้อย่างน่าสนใจอย่างมาก ไม่เกี่ยวกับสกอร์ที่ออกมามโหฬาร 3-3
แต่เป็นการสร้างฟุตบอลที่ครบทุกรสโดยแท้ และทำให้ “ฟุตบอลไม่มีวันตาย” ดังกึกก้องขึ้นมาอีกที พร้อมกับคำว่า Football is bloody hell
เกมบิ๊กแมทช์แรกของฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีทุกอย่างที่แฟนบอลสมควรจะได้รับจากการดูฟุตบอล มาพร้อมกันหมดทั้ง แท็กติกของทีม, เทคนิคของทีม, ทักษะของนักฟุตบอล, ความผิดพลาด, จุดโทษ, ความน่ากังขา และการพังประตูที่งดงาม
ถ้าเป็นมวยก็คือปักหลักตะบันหน้ากันให้ยับให้แหลกกันไปข้าง
รายละเอียดที่น่าสนใจก็คือ สเปน มาในแผนการเล่นเหมือนอย่างเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร คือเปิดหน้าบอกทุกคนให้รู้เลยว่า จะมาแบบนี้เล่นอย่างนี้
แต่ระหว่างทางการหยิบจับนักเตะที่ลงสนามถือว่าน่าสนใจ เป็นเรื่องที่ถูกโฟกัสอยู่แล้วว่า เฟร์นานโด เอียร์โร่ จะทำตรงได้ดี แต่อาจจะไม่ละเอียดเท่ากับ ฆูเลน โลเปเตกี ที่ปั้นทีมนี้มา
เราจึงเห็นการเปลี่ยนตัวของ สเปน ที่ยังเลือกผู้เล่นลักษณะเดียวกันลงสนาม นั่นคือนักบอลที่เก็บบอลเก่ง แต่ที่ลงมาคือนักบอล“คนละวง”กับคนที่เล่นอยู่ ซึ่งความสามารถด้อยกว่าพวกที่อยู่ก่อนหน้านี้
ที่สำคัญคือ “ยืนคนละที่” กับที่ที่ “พวกเขาถนัด”
เหมือนกันกับ โปรตุเกส หลายคนบ่นอุบกับกองหน้า
ตัวเป้าของพวกเขานั่นคือ กอนซาโล่ กูเอเดส เด็กหนุ่มที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ บาเลนเซีย ที่ดูเงอะๆ เงิ่นๆ และยังไม่เข้าขากับ โรนัลโด้
หากใครติดตามบอลสเปนมาตลอดคงเห็นฟอร์มดาวรุ่งคนนี้ว่า แท้จริงแล้วตำแหน่งถนัดของเขาคือ ปีกซ้ายในระบบที่โปรตุเกสเล่นนี่แหล่ะ คือ 4-4-2
แต่ด้วยความเป็นโปรตุเกส ที่แทบจะทุกยุคทุกสมัยมีปัญหากับกองหน้าตัวเป้า แต่มีปีกชั้นดีเกิดขึ้นมากมายรุ่นสู่รุ่น ลงท้าย กูเอเดส ที่ถนัดการเล่นริมเส้นทางซ้าย ตัดออกนอก หรือโยกเข้าในเปิดด้วยขวา จึงไม่ถนัดแน่กับการเล่นแบบนี้
แน่นอนว่า คนเราหาความลงตัวได้ยากแน่ๆ กับชีวิต ยิ่งจะต้องมาผสมนักบอลให้ลงตัว จึงเป็นเรื่องยาก แต่ตรงนี้ต้องยกย่องฝีมือของ เอียร์โร่ และแฟร์นานโด ซานโต๊ส ที่ปรุงรส
ลูกทีมของเขา จึงออกมาได้เมามันส์อย่างที่เห็น
คิดดูขนาด สเปน ยิงได้ 3 ลูกยังไม่ชนะ และในทางกลับกัน โรนัลโด้ ระเบิดแฮททริกก็ยังไม่ชนะเหมือนกัน
แต่แสดงให้เห็นอะไรบางอย่างเหมือนกันว่า หากคุณคิดว่าฟุตบอลโลกปีนี้ เป็นการลุ้นแชมป์ครั้งสุดท้ายของ เมสซี่
สำหรับ โรนัลโด้ ที่ได้รับการสนับสนุนน้อยกว่า
เขาก็คิดไม่ต่างกันกับ เมสซี่ เช่นกัน!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี