การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 21 ที่รอสตอฟ-ออน-ดอน ประเทศรัสเซีย เวลา 01.00 น.วันอาทิตย์ที่ 17 มิ.ย.61 “แซมบ้า” ทีมชาติบราซิล ปะทะกับ “นาฬิกา” ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์
สถิติการพบกันของคู่นี้ ถือว่าสูสีอย่างมาก บราซิล ชนะ 3 เสมอ 2 สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ 2 แถมการเจอกันครั้งหลังสุดเมื่อปี 2013 สวิส เป็นฝ่ายชนะไปด้วย 1-0
เริ่มเกมมาได้ 3 นาที สวิส ได้ทักทายก่อน จากจังหวะลอยตัวตวัดยิงของ เบลริม ซไมลี่ แต่โดนไม่ดี บอลโด่งออกหลังไป
หลังจากนั้นรูปเกมสูสี จนนาที 11 บราซิล ลุยขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ คูตินโญ่ จากเขาในเขตโทษทางซ้ายให้ เนย์มาร์ ก่อนที่เขาจะปาดต่อเข้ากลาง และเป็น เปาลินโญ่ ที่ได้ยิงในกรอบ 6 หลา แต่โดนไม่ดี บอลไหลผ่านหน้าประตูออกไป
จากนั้นเป็น บราซิล ที่ครองบอลได้เหนือกว่า และเข้าบีบเร็วทำให้ สวิส เสียบอลเร็วและยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ กระทั่งนาที 20 บราซิลลุยขึ้นมา บอลมาถึง คูตินโญ่ ที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่ดาวเตะบาร์เซโลน่า จะปั่นด้วยขวาลูกถนัด บอลติดไซด์โป้งโค้งชนเสาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ชนิดที่ ยานน์ ซอมเมอร์ นายด่านสวิส พุ่งสุดตัวก็ยังไปไม่ถึง เป็น บราซิล ขึ้นนำ 1-0
หลังเสียประตู สวิส พยายามตั้งเกมบุกขึ้นมา แต่ยังไม่ได้ลุ้นมากนัก และผ่าน 30 นาทีแรก กลับเป็น บราซิล ที่ได้ลุ้นจากฟรีคิก แต่ มาร์เซโล่ เปิดบอลไปติดแนวรับ สวิส ออกหลังไป บราซิล ได้เตะมุม แต่ไม่มีลุ้นอะไร
เกมมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก บราซิล ได้เตะมุม เนย์มาร์ เปิดเข้ามา และเป็น ติอาโก้ ซิลวา ที่ขึ้นโหม่ง บอลข้ามคานไปแบบได้ลุ้น สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเป็น บราซิล ที่ขึ้นนำ สวิสเซอร์แลนด์ ไปก่อน 1-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง สวิส บุกเข้าใส่ และได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงของ เบลริม ซไมลี่ แต่บอลออกนอกกรอบไป
จากนั้นเป็น สวิส ที่ได้ลุ้นต่อเนื่อง และนาที 50 มาได้ลูกเตะมุม เซอร์ดาน ชากิรี่ เปิดเข้ามา และเป็น สตีเว่น ซูเบอร์ ที่ขึ้นโขกเหน่งๆคนเดียวเข้าประตูไป ช่วยให้ สวิส ตีเสมอเป็น 1-1 อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางการประท้วงเล็กน้อยจากผู้เล่น บราซิล ที่มองว่า ซูเบอร์ ไปผลักหลัง ชูเอา มิรานด้า ก่อน
นาที 58 บราซิล บุกขึ้นมา และได้กด 2 ครั้งซ้อนจาก คูตินโญ่ ก่อนที่บอลจะมาถึง เนย์มาร์ ที่ได้ยิงในจังหวะสุดท้าย แต่บอลแฉลบผู้เล่น สวิส ออกหลังไป
เกมผ่าน 1 ชั่วโมง มาถึงนาที 64 บราซิลขึ้นเกมบุกมาทางซ้าย บอลมาถึง เนย์มาร์ ได้สับขาหลอก ฟาเบียน ชาร์ หลุดไปแล้ว แต่โดนดึงเอาไว้ กรรมการเป่าฟาวล์ พร้อมแจกใบเหลือง ชาร์
จากจังหวะฟรีคิก บอลเปิดเข้าไปในเขตโทษ ผู้เล่น สวิส เคลียร์ไม่ขาด โดนบราซิลกดดันได้ยิงอีก 2-3 ครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูขึ้นนำไม่ได้
นาที 70 บราซิลได้ลุ้น จากจังหวะเปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลมาถึง คูตินโญ่ ที่ได้ยิง แต่บอลติดไซด์ก้อยออกหลังไป
นาที 73 สวิส สวนขึ้นมา และได้ยิงนอกกรอบ แต่บอลเบา และตรงตัว อลิสซอน นายด่านบราซิลรับไว้ได้สบาย
นาที 75 บราซิลขึ้นเกมมา บอลทะลุไปถึง กาเบรียล เฮซุส ในเขตโทษ แต่ถูก มานูเอล อรานญี่ แนวรับ สวิส เบียดล้มลง เจ้าตัวหวังเอาลูกโทษ แต่กรรมการนิ่ง
นาที 78 บราซิล เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายด้วยการส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลงมาแทน กาเบรียล เฮซุส และนาที 81 บราซิลขึ้นเกมบุกมาทางขวา บอลมาถึง ฟีร์มิโน่ ได้ยิง แต่บอลโด่งออกไป
นาที 87 บราซิล ลุยขึ้นมาอีก บอลเปิดเข้าเขตโทษ เนย์มาร์ วิ่งเข้ามาโหม่ง แต่บอลตรงตัว ซอมเมอร์ รับเอาไว้ได้
นาที 90 จากฟรีคิก เนย์มาร์ เปิดเข้าไปในเขตโทษ ผู้เล่นบราซิลได้โขก แต่ ซอมเมอร์ เซฟไว้ได้อีก จากนั้นนาที 90+1 มิรานด้า ได้ยิง แต่บอลหลุดกรอบไปอีก
ช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เนย์มาร์ ได้ปั่นฟรีคิกระยะหวังผล บอลเปิดเข้าไป และจังหวะสุดท้ายเป็น เรนาโต้ ออกุสโต้ ได้ยิงในบนเส้น 6 หลา บอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่แนวรับ สวิส เคลียร์ออกไปได้แบบเฉียดฉิว จบเกม บราซิล ทำได้เพียงเสมอ สวิสเซอร์แลนด์ 1-1
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี