อย่างที่เคยเขียนเอาไว้ว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้กำลังจะก้าวผ่านยุคของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ และลีโอเนล เมสซี่
เพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของในอนาคต ที่อาจจะเป็นของ เนย์มาร์ ก็ว่าได้ หลังจากเขากลายเป็นนักเตะที่แพงที่สุดในโลก ที่ก้าวจาก “ราชันยูทูบ” จนมาเป็นแข้งที่มีราคามากที่สุดของปฐพี
เมื่อฟุตบอลเลยจุดแห่งการใช้”ระบบเดียวกัน” นักบอลและกุนซือในยุคคลาสสิคเริ่มมีโอกาสในการบริหารจัดการ ครั้งต่อ ๆ ไปของฟุตบอลโลก หากโมเดลมากันขนาดนี้ รับรองได้ว่า “ธรรมชาติการเล่น” หรือให้ชัดเลยก็คือ “สันดานฟุตบอล” จะกลับมา
ครั้งนี้เริ่มมีมาหลายทีม แต่หลายทีมยังเลือกที่จะใช้แทคติคการเล่นเกมรับลึก ที่น่าเบื่อแบบสุด ๆ ลงเล่นอยู่
ตัวอย่างชัดเจนเลย และถูกเป็นเป้าวิพากษณ์วิจารณ์ ก็คือ เกมระหว่าง สเปน กับ อิหร่าน
นักเตะจากเอเชีย เล่นเกมรับมากเกินไป เล่นซะจนมันทำลายฟุตบอลไปเลยหรือไม่ อันนี้ตอบไม่ได้ แต่น่าสนใจมาก ๆ
เพราะ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า กำลังพิจารณาอยู่ถึงการเพิ่มทีมในฟุตบอลโลก ปี 2026 ที่นอกจากจะพิลึกพิลั่นด้วยการเพิ่มเจ้าภาพเป็น 3 ประเทศในคราเดียวแล้ว
ยังจะเพิ่มโควตาทีมเข้าไปเล่นจาก 32 เป็น 46 ทีม
แว่วข่าวก็คือ แอฟริกา - 9 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 5), เอเชีย - 8 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 หรือ 5), ยุโรป - 16 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 13), คอนคาเคฟ - 6 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 หรือ 4), โอเชียเนีย - 1 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 0 หรือ 1), อเมริกาใต้ - 6 ทีม (เพิ่มขึ้นจากเดิม 4 หรือ 5)
อันที่จริง เมื่อเป็นรองก็เล่นเกมรับ คือเรื่องปกติ แต่ถ้าหากตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมรับ มันทำลายเกมฟุตบอลอย่างชัดเจน ที่สำคัญก็คือมันแสดงให้เห็นถึง คุณภาพ และความต่างของฟุตบอลโดยแท้
ยังดีที่ ฟีฟ่า ดูเหมือนยังสับสนอยู่ว่า การนำทีมไปเล่นรอบสุดท้าย คุณกำลังต้องการเอาอะไรกันแน่จากจำนวนทีมที่เพิ่มเข้ามา
เพิ่มจากทวีปที่มีประเทศเยอะ, เพิ่มจากทวีปที่ผลงานดี หรือเพิ่มจากทวีปที่มีมูลค่าทางการตลาด
ลองขยับสายตาขึ้นไปอ่านบรรทัดบน ผมยังไม่เข้าใจความหมายในการเพิ่มทีมของฟีฟ่าแม้แต่นิดเดียว เอาง่าย ๆ แค่”จำนวน”ของเอเชีย กับ โอเชียเนีย กับคุณภาพของอเมริกาใต้
ตกลงจะเอายังไงกันแน่
ยิ่งได้มาเห็นฟอร์มในนัดแรก แม้จะยังตัดสินอะไรกันไม่ได้ แต่มันมีคำตอบให้เห็นชัดเจนมาก
ซาอุดีอาระเบีย แพ้สองนัดรวด หลายคนด่ายับจากนัดแรกก็ควรแล้ว ส่วนนัดสองเหมือนเล่นดีขึ้น แต่จริง ๆ ก็คือ อุรุกวัย เค้าเป็นทีมประเภทนี้
ญี่ปุ่น เป็นทีมแรกที่กำชัยเหนือทีมจากลาตินอเมริกา แต่ลองคิดกลับกันว่า หาก โคลอมเบีย ไม่เหลือ 10 คนตั้งแต่ 2 นาที 58 วินาที นี่ประกันคงไม่รับเคลม
เช่นเดียวกับ เกาหลีใต้ ที่เป็นรอง สวีเดน แบบสุดลิ่ม
สุดท้ายคือ อิหร่าน ที่แม้จะชนะ 1 แพ้ 1 แต่เกมนั้น”เอาท์คลาส”ให้กับ โมร็อคโก และสเปน
ทั้ง 4 ทีมคือชาติที่เป็นมหาอำนาจลูกหนังเอเชียแบบ”ซึมลึก”ที่สร้างความ”ซึมเศร้า”ให้กับเพื่อนร่วมทวีปมานักต่อนักเตะแล้ว
ทั้งนี้ขออนุญาตไม่รวม ออสเตรเลีย เข้าไปในกลุ่มชาติพันธุ์เอเชีย แต่อย่างใด แต่ถ้าอนุฯญาตให้รวมได้ ก็ชัดเจนว่า กว่าจะเข้ารอบมาได้ก็ลากเลือดถึงเพลย์ออฟ และเกมกับ ฝรั่งเศส จริงอยู่ที่มาโดน วีเออาร์ เล่นงาน แต่หากนับเรื่องคุณภาพมันชัดเจนอยู่แล้ว
ท้ายที่สุด ถ้าหาก ฟีฟ่า ไม่”หน้าเงิน”จนเกินไป ก็ไม่ควรจะเพิ่มทีมอะไรให้มันเยอะแยะ เสียเวลาและเสียคุณภาพ
ยิ่งเรตติ้งในบ้านเราคราวนี้ ยังคงแพ้”ละคร”และสูสีกับ”เกมโชว์”
ยังจะกลายเป็น”เสียคุณค่า”ของฟุตบอลโลกไปเลย
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี