คู่ชิงฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน นั่นคือ เยอรมนี กับอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สามารถจะ“เปลี่ยนมือ” หรือ “เปลี่ยนหน้า” ไปเป็นทีมอื่น
แต่ไม่น่าเชื่อว่า สถานการณ์ของทั้งสองทีมจะยากลำบาก
ฝั่งหนึ่งคาบลูกคาบดอก อีกฝั่งหนึ่งกำลัง”โคม่า”
เป็นเรื่องจริงที่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้ว
ว่ากันถึง อาร์เจนติน่า ที่เกิดอาการโคม่าแถมยังทำให้แฟนฟุตบอลต้องชักตาตั้ง เมื่อพลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับ โครเอเชีย ขาดลอยถึง 0-3 ทำให้สุ่มเสี่ยงต่อการตกรอบแรกในรอบ 16 ปี
อันที่จริงกว่า อาร์เจนติน่า จะเดินทางมาถึงรัสเซีย ก็ต้องลุ้นกันแทบปางตาย และไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าใครจะมาทำทีม
“ฟ้าขาว” ก็อาการครึ่ง ๆ กลาง ๆ อยู่ดี
ในยุคของ ฮอร์เก้ ซามเปาลี ถึงนาทีนี้ยังไม่มีแผนการเล่นที่ชัดเจนจริงหรือไม่? ไม่มีแผนสองสำรองเอาไว้จริงหรือเปล่า? …เราอาจจะมองแบบนั้นก็ได้
ไม่มีผู้เล่น 11 คนในดวงใจ ไม่เล่นต่อเนื่อง สลับตำแหน่งไปมาทุกนัด ทำให้คู่แข่งจับทางยาก แต่ทีมก็ขาดสมดุลย์
ขาดความเข้าใจกันไปเอง
แต่ต้องไม่ลืมธรรมชาติของการคุมทัพของกุนซือรายนี้ เขาเป็นประเภทหมุนเวียนนักเตะ เป็นคนที่ปรับแทคติคอย่างต่อเนื่องในเกมเดียว การยืดหยุ่นในเกมคือหัวใจของการทำงานของเขา แต่นั่นหมายว่า นักเตะต้องปรับเข้ากับระบบ
คำถามคือ ซามเปาลี ปรับเข้ากับนักบอลหรือไม่ อย่างไร???
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าด้วยกับกรณีนักบอลไม่ค่อยเคารพ ซามเปาลี
ยิ่งการมีนักบอลที่ดีที่สุดหนึ่งในสองแห่งยุคอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ อยู่ในทีม กลับกลายเป็นว่า ไม่มีคนสนับสนุนเขา หรือว่าเขาเฉยเมยตามบุคลิคตัวเองจนเกินไป ลงท้ายโลกเห็นใจ เมสซี่ และคนที่เลือกตัวมาเล่นกับ เมสซี่ ก็ต้องรับผิดชอบ
ซามเปาลี ต้องรับเรื่องนี้ไปแบบเต็ม ๆ
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ เยอรมนี ที่อาการสาหัสกว่าจากเกมแรก ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้น
ทีมนี้หล่อหลอมจากเบ้าเดียวกันคือ โยอาคิม เลิฟ ที่อยู่กับทีมตั้งแต่เจนเนอเรชั่นนี้ยังไม่เกิด กระทั่งเขาพาทีมเป็นแชมป์โลก เมื่อ 4 ปีก่อน
ประเด็นก็คือ นักเตะของทีมเป็นของเดิม แทคติคเหมือนเดิม แต่ความเป็นซูเปอร์สตาร์มากกว่าเดิม จนบดบัง”สปิริต”ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้า คุณภาพมาตรฐานเยอรมนีที่มีมาช้านาน
นักบอลหลายคนโด่งดัง และทำตัวเป็น “ซูเปอร์สตาร์” มากไป ทำให้ทีมสปิริตเหมือนจะหายไปจากทีม เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญก็คือ เลิฟ ต้องเรียกสิ่งนี้กลับมา เหมือนกับที่ ซามี่ เคดิร่า กล่าวไว้ก่อนแข่ง
“เราเหมือนกับเด็กเตะบอลในโรงเรียน ทั้งที่เราจะต้องเป็นนักรบ”
จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เรื่องของชาติ, ดีเอ็นเอ, สปิริต, เติบโตมาด้วยกัน จุดนี้ เยอรมนี มีโอกาสกลับมาได้มากกว่า อาร์เจนติน่า
อย่างไรก็ตาม “บอลระบบ” ต้องมาเจอกับ “บอลระบบ” เหมือนกันนั่นคือ สวีเดน ที่ต้องยอมรับว่าแข็งแกร่งกว่า เม็กซิโก
แต่ไม่ได้รอบจัดกว่าพวกจังโก้
นักบอลสวีดิชตัวใหญ่ เล่นตามแผนมาร์กตามจุด ระบบคือ 4-2-2-2 เป็นแกนตรง แต่ที่มันจะยากก็คือ พวกไวกิ้งลงเกมนี้ด้วยการ”ขอคะแนนเดียว” ทำให้ เยอรมนี เล่นยากแน่นอน
แต่นี่แหละคือโอกาสที่ เยอรมนี จะแสดงตัวตนของพวกเขาในโลกลูกหนังอีกครา
ด้วยการเป็นฟุตบอลโลกครั้งนี้ รวมไปถึงสถานการณ์ที่กดดันขนาดนี้ การเจอกันคงไม่ยับเหมือน 2 เกมหลังที่ทั้งสองทีมเจอกันแล้วซัดรวมถึง 16 ประตู
เอาเข้าจริง ใครจะไปกล้าคิดว่า เยอรมนี กับ อาร์เจนติน่า ที่บี้กันสูสีในการล่าแชมป์ครั้งล่าสุด จะตกอยู่ในสถานการณ์เยี่ยงนี้
ตอกย้ำคำเดิมว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่มีคำว่าง่าย
ไม่มีคำว่าง่ายจริง ๆ
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี