การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบ 2 วันอังคารที่ 3 ก.ค.61 คู่เวลา 01.00 น. ที่อ็อตครีทีฟ อารีน่า กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ดวลแข้งกับ ทีมชาติโคลอมเบีย สถิติคู่นี้ อังกฤษ เหนือกว่ามาก 5 เกมที่เจอกันมา ชนะ 3 เสมอ 2 ไม่เคยแพ้ และเจอกันในบอลโลกครั้งเดียว คือ ปี 1998 อังกฤษ ชนะนิ่ม ๆ 2-0
สำหรับ 11 นักเตะที่ลงสนามเป็นตัวจริงของทั้ง 2 ทีม มีดังนี้
+ อังกฤษ : จอร์แดน พิคฟอร์ด(ผู้รักษาประตู) - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็คไกวร์ - คีแรน ทริปเปียร์, เจสซี่ ลินการ์ด, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดเล่ อัลลี่, แอชลี่ย์ ยัง – ราฮีม สเตอร์ลิง และแฮร์รี่ เคน
+ โคลอมเบีย : ดาวิด ออสปิน่า(ผู้รักษาประตู) - ซานติอาโก้ อารีอาส , ดาวินซอน ซานเชซ , เยร์รี่ มีน่า , โยฮัน โมฮิก้า - วิลมาร์ บาร์ริออส , คาร์ลอส ซานเชซ , เจฟเฟอร์สัน แลร์มา - ฮวน กวาดราโด้, ฮวน ควินเตโร่ และ ราดาเมล ฟัลเกา
ครึ่งแรก เกมทำท่าจะสนุก เมื่อ อังกฤษ เปิดเกมลุยเข้าใส่ และมาได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 4 จากจังหวะที่ แอชลีย์ ยัง ปั่นฟรีคิกจากฝั่งซ้ายเข้าไป จน ดาวิด ออสปิน่า นายด่านโคลอมเบีย ต้องออกแรงทุบ
นาที 15 อังกฤษ ได้ลุ้นอีก จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน ได้โหม่ง บอลข้ามคานไปหวุดหวิด
ผ่าน 20 นาทีแรก โคลอมเบีย เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ แต่จังหวะสุดท้าย ยังไม่ค่อยได้จบสกอร์มากนัก บอลมักมาถูก อังกฤษ ตัดได้ในพื้นที่สุดท้าย
จากนั้นเกมเริ่มหนักขึ้น มีจังหวะปะทะหนักๆ และนักเตะทั้ง 2 ทีมเกือบมีเรื่องกันบ่อยครั้ง
นาที 41 อังกฤษ มาได้ลุ้นก่อนจบครึ่งแรก จากจังหวะที่ คีแรน ทริปเปียร์ ได้ปั่นฟรีคิก บอลข้ามกำแพงไปแล้ว แต่หลุดออกนอกกรอบไป หลังจากนั้นเกมไม่มีอะไรให้เสียว จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอกับ โคลอมเบีย 0-0
ครึ่งหลัง เปิดเกมขึ้นมายังเป็น อังกฤษ ที่ลุยเข้าใส่ก่อน จนนาที 52 มาได้ลุ้นจากฟรีคิก คีแรน ทริปเปียร์ เปิดเข้ามา แต่ถูก ดาวินซอน ซานเชซ โหม่งไปได้ก่อนที่บอลจะถึงผู้เล่นอังกฤษ
จากลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามา คาร์ลอส ซานเชซ ไปเหนี่ยวรั้ง แฮร์รี่ เคน ล้มลงในเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นลูกจุดโทษทันที ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่น โคลอมเบีย
สุดท้ายเป็น แฮร์รี่ เคน ที่รับหน้าที่สังหาร กดเข้าไปกลางประตู ช่วยให้ อังกฤษ ขึ้นนำ 1-0 ในนาที 57 และเป็นประตูที่ 6 ของ เคน ซึ่งทำให้เขาขึ้นนำดาวซัลโวบอลโลกหนนี้ และทาบสถิติของ แกรี่ ลินิเกอร์ เมื่อปี 1986 ด้วย
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย อังกฤษ มาได้ลุ้นอีกครั้งในนาที 72 จากจังหวะเตะมุม และเป็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ได้โหม่ง แต่บอลข้ามคานออกไป
นาที 81 ไคล์ วอล์คเกอร์ พลาด ถูก คาร์ลอส บัคก้า ตัวสำรองของ โคลอมเบีย ตัดบอลได้ทางซ้าย ก่อนจะกระชากขึ้นมา แล้วจ่ายไปทางขวาให้ ฮวน กวาดราโด้ ที่วิ่งเติมขึ้นมา ได้กดโล่งๆ แต่บอลเหินข้ามคานไปเยอะ
เกมมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+2 โคลอมเบีย ได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ มาเตอุส อูริเบ้ ตัวสำรอง แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด บินปัดปลายมือบอลออกหลังไป และจากจังหวะเตะมุม ฮวน กวาดราโด้ เปิดเข้ามา และเป็น เยอร์รี่ มิน่า ที่ขึ้นโขก กดลงพื้น บอลเข้าประตูไป ตีเสมอให้ โคลอมเบียเป็น 1-1 จนได้ในนาที 90+3 และจบ 90 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีแรก เป็น โคลอมเบีย ทำเกมได้ดีกว่า บุกมาป้วนเปี้ยนในแดน อังกฤษ ได้บ่อยครั้ง โดยนาที 100 ฮวน กวาดราโด้ ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ และเป็น คาร์ลอส บัคก้า ได้โขก บอลโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ ออกหลังไป สุดท้ายยังทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีแรก ยังเสมอกัน 1-1
ช่วงต่อเวลาพิเศษ 15 นาทีหลัง อังกฤษ ได้ลุ้นก่อนจากการยิงของ เจมี่ วาร์ดี้ ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลัง แต่บอลเข้าซอง ดาวิด ออสปิน่า และเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาที 112 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จ่ายทะลุไปให้ แดนนี่ โรส ตัวสำรองที่ลงมาช่วงต่อเวลา หลุดเข้าไปสไลด์ตัวยิงทางซ้าย บอลผ่านหน้าประตูไปแบบได้ลุ้น
นาที 115 อังกฤษ ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม คีแรน ทริปเปียร์ เปิดเข้าไป และเป็น เอริค ไดเออร์ อีกหนึ่งตัวสำรองของอังกฤษที่ลงมาช่วงครึ่งหลัง ที่ได้โขกโล่งๆ บอลออกไปอีก ช่วงเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบ 120 นาที เสมอ 1-1 ต้องยิงจุดโทษตัดสิน
ช่วงการยิงจุดโทษ โคลอมเบีย ยิงก่อน คนแรก ราดาเมล ฟัลเกา ยิงเข้าไป ส่วน อังกฤษ คนแรก แฮร์ร่ เคน ยิงเข้าเช่นกัน
โคลอมเบีย คนที่ 2 ฮวน กวาดราโด้ ยิงเข้าเสียบสามเหลี่ยม ส่วน อังกฤษ คนที่ 2 เป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงเข้าเช่นกัน
โคลอมเบีย คนที่ 3 หลุยส์ มูเรี่ยล ยิงเข้าไปง่ายๆ ส่วน อังกฤษ คนที่ 3 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยิงไปติดเซฟ ดาวิด ออสปิน่า ที่พุ่งไปเซฟไว้ได้
โคลอมเบีย คนที่ 4 มาเตอุส อูริเบ้ ยิงเต็มเท้าบอลชนคานกระดอนออกมา ส่วน อังกฤษ คนที่ 4 เป็น คีแรน ทริปเปียร์ ยิงเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป สกอร์มาเท่ากันที่ 3-3
โคลอมเบีย คนที่ 5 คาร์ลอส บัคก้า ยิงไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ส่วน อังกฤษ คนสุดท้าย คือ เอริค ไดเออร์ ยิงเข้าไป ส่งผลให้ อังกฤษ เอาชนะ โคลอมเบีย ในการยิงจุดโทษ 4-3 หลังเสมอกันใน 120 นาที 1-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปเจอกับ สวีเดน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี