บอลโลก รอบ 8 ทีม สองเกมที่เหลือถือว่าสูสีกันแบบสุดขั้วหัวใจ
อังกฤษ ดวลกระดูกอย่าง สวีเดน และรัสเซีย ชนกับ โครเอเชีย
“ขวัญใจมหาชน” ยังใช้คำนี้กับ อังกฤษ ได้หรือเปล่า ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ กับชุดที่ไม่มีใครคาดหวัง แต่กลับทำให้แฟนบอลฝันหวานได้หน้าตาเฉย ด้วยหลายสิ่งหลายอย่างมาประกอบกัน
เส้นหนามไม่มี อาทิ เยอรมนี ไม่ได้มาตามนัด ไม่อย่างนั้นแมทช์นี้อาจเป็นการโคจรมาเจอกันเองก็ได้ ตามสายตามแผงที่วางกันเอาไว้
แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกใช้แผน 3-5-2 ค่อนข้างชัดเจนกว่า 3-4-3 เนื่องจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไปยืนค้ำหน้าคู่กับ แฮร์รี่ เคน แน่นอนว่า ฟอร์มของ สเตอร์ลิ่ง ยังไม่ดีเอาซะเลย อาจมาจากเขาเล่นตำแหน่งที่ไม่ถนัด
ทางออกคือ เจมี่ วาร์ดี้ ที่ถนัดกว่าจริงหรือไม่นั้น ในแง่ของบุคลิกจัดว่า ถูกต้อง แต่ในแง่ของแทคติค เซาธ์เกต ต้องการตัวที่เก็บบอล และไปกับบอลในพื้นที่แคบ ๆ เพื่อรอการเติมขึ้นมาของเพื่อนร่วมทีม
การยืนหน้าของ สเตอร์ลิ่ง จึงถูกวิจารณ์หนักในการผลิตสกอร์ เมื่อเทียบกับ แฮร์รี่ เคน แต่คนหนึ่งที่ต้องถูกเพ่งเล็งหนักเช่นกันก็คือ เดเล่ อัลลี่ ที่เงียบมาแทบจะทั้งซีซั่นนี้ และก็เงียบหนักมากเหมือนกันในบอลโลก
เซาธ์เกต กำลังซื้อในเรื่องความเข้าอกเข้าใจในการเล่น อัลลี่ กับ เคน ถ้าจังหวะดี ๆ มันคลิกกันขึ้นมาก็อาจจะถึงกับการได้ประตู เมื่อลองมาต่ำลงมาเราจะเห็นได้ว่า เซาธ์เกต ก็ซื้อความคล่องตัวและการอ่านบอลของ ไคล์ วอล์คเกอร์ ในการเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟด้านขวา
ในเมื่อ วอล์คเกอร์ ครอสบอลไม่ดี แต่มีเรื่องของความเร็วมาช่วย บวกกับการจ่ายบอลแนวตรงไม่ค่อยเสีย ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไว้ใจในสีเสื้อแมนเชสเตอร์ ซิตี้
แน่นอน เมื่อคุณจะต้องใช้อาวุธเทคนิคจากลูกตั้งเตะต่าง ๆ และการเปิดป้อนด้านข้างที่เข้าใจกัน คีแรน ทริปเปียร์ จึงเป็นคำตอบ
มันเหมือนกับการใช้สไตล์ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก กับความเข้าใจส่วนตัวมารวมกันนั่นเอง
ปีนี้มีถึง 15 จาก 32 ทีมที่ได้ประตูลูกตายทั้ง ฟรีคิก, เตะมุม และลูกทุ่ม รวมถึงจุดโทษ อังกฤษ คือหนึ่งในนั้น
แล้วในฝั่งกลับกันยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่
สวีเดน ผู้สร้างความแตกต่างในฟุตบอลโลก ที่”กำลังจะ”ก้าวผ่านมาเป็น “ม้ามืด” ตัวจริงหากพวกเขาผ่านเกมนี้ไปได้
จุดเด่นของทีมชุดนี้ แสดงออกอย่างชัดเจนมาตั้งแต่รอบคัดเลือก ด้วยเกมรับที่เล่นกันได้อย่างแน่นอนมาก ๆ
แทคติคของ สวีเดน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก พวกเขาทำงานหนักเพื่อทีม และเมื่อลงลึกในรายละเอียด นักเตะทีมนี้รู้จุดแข็งคู่แข่งแบบละเอียดยิบ ดังนั้น อังกฤษ ต้องระวังการจ่ายบอลแบบพื้น ๆ จากแผงมิดฟิลด์ เพื่อออกด้านข้าง พวกไวกิ้งจะปิดไลน์แล้วให้เล่นในเท้าข้างไม่ถนัด
รายละเอียดของสวีเดน สำคัญจริงๆตรงพื้นที่แถวสอง แม้จะขาด มิคาเอล ลุสติก แบ๊คขวาตัวจริงที่ติดโทษแบน แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะแกนหลักในแผงกลางเคยขาดมาแล้วในรอบก่อน แต่ กุสตาฟ สเวนส์สัน ก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน
สิ่งหนึ่งที่ อังกฤษ ยังพออุ่นใจ นั่นคือ จังหวะเข้าทำของ สวีเดน ที่ยังไม่นิ่ง และเฉียบคมพอ เครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเริ่มเทิ่มกับความฝืดของ โอล่า ตอยโวเน่น กับ มาร์คุส เบิร์ก
กระทั่งตัวของ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก บางทีก็ออกเก้ ๆ กัง ๆ ไม่อยากจะออกบอลให้กับเพื่อน เนื่องจากเสียบอลง่าย และถ้าถูกโต้กลับเร็วบ่อย ๆ ขบวนรับจะจัดแจงตัวเองไม่ทัน
ทั้งหมดทั้งมวลก็คือ คู่นี้กินกันยากมาก เป็นบอลประเภท”หน้าเดียวกันทั้งคู่” ทั้งสองฝั่งรู้เลยว่า จะต้องมากันในมุกไหน
อังกฤษ ไม่ค่อยชอบบอลสไตล์สวีเดน แต่ สวีเดน เองก็ใช่ว่าจะชนะอังกฤษได้ง่าย ๆ ผมรู้สึกว่า ความผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ควรผิดพลาดจะตัดสินเกมนี้
ดังนั้นจงระวังลูก Dead Ball กันให้ดี!!!
อีกเกมที่โลกจับตามอง นั่นคือ “หมีขาว” รัสเซีย เจ้าภาพที่มาเป็นบอลทหาร แข็งแรง และวินัยสูง จะต้องเจอกับบอลที่มาเป็นทีมเหมือนกัน มีความเข้าอกเข้าใจกันอย่าง “หมากรุกพิฆาต” โครเอเชีย
ทำไปทำมา รัสเซีย ที่ดูเหมือนจะ”ไม่มีอะไร” กลับกลายเป็น “มีอะไร” เหมือนกัน ก็ตรงเรื่องของการทำตามหน้าที่ ทำด้วยแบบแผนที่ดี และทำด้วยการรู้จักประมาณตน
เวลานี้ นักบอลรัสเซีย อยู่ในช่วงที่กำลังมั่นใจถึงขีดสุด สิ่งที่แฝงจากพละกำลัง, เสียงเชียร์ และวินัยในการเล่นแล้ว พวกเขายังรู้จักประมาณตนเอง พร้อมกับรับมือได้ทุกแผนที่โค้ชต้องการ
อย่างไรก็ตาม จะด้วยแผนไหน 4-2-3-1, 4-5-1, 3-6-1 หรือ 5-4-1 สิ่งที่พวกเขาแสดงให้คู่แข่งเห็นก็คือ ครึ่งหลังพวกเขาจะมีปัญหา เรื่องของการใช้พละกำลัง
การสาดบอลพ้นตัวเอง เตะให้พ้นแดนตัวเอง และไม่ได้มีเกมโต้กลับที่เฉียบคม นี่คือบาดแผลที่เปิดมาให้เห็น
บนความแข็งแกร่งก็จะแฝงไปด้วยจุดอ่อนเสมอ
เช่นเดียวกันกับ โครเอเชีย เมื่อเจอบอลเข้าถึงและบดเร็วอย่าง เดนมาร์ก เกือบทำให้พวกเขาต้องตกรอบที่แล้ว การเล่นเข้าใจกัน เปลี่ยนบอลออกซ้ายขวาได้ดี โฉบเฉี่ยว และสวยงามอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ
อย่างที่เคยบอกไปว่า โครแอต สวยเหมือนกับศัลยกรรม มียุบให้เห็นเหมือนกัน และจะต้องมาเจอกับบอลในสไตล์บดกระดูกที่ไม่เคยเจอเลยในรอบแรก
อันที่จริง ไอซ์แลนด์ ก็ไม่ได้ต่างจาก รัสเซีย ในเรื่องของความแข็งแกรง หรือการเล่นแบบลุย ๆ แบบนี้ เพียงแต่เกมที่ โครแอต เจอนั้น ไอซ์แลนด์ ไม่ได้เล่นตามแผนแรกของพวกเขา เนื่องจากต้องบุกเพื่อชนะ
แต่เกมนี้ รัสเซีย จะได้เล่นแผนตัวเองก่อน
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ โครเอเชีย ไม่ได้ส่งบอลกันไปมา หรือเคาะกันไปเรื่อย ๆ แบบ สเปน ที่ต่อให้คุณเสียกระบวนทัพไปแล้ว ก็สามารถมายืนเซ็ตกันได้ทัน
พวกบอลโครแอตมีเทคนิคการเล่นที่แพรวพราว และรวดเร็วมากในการจ่ายบอลจังหวะเดียว ผมมองว่า ถ้าหาก รัสเซีย ใช้กองหลัง 5 คนเหมือนนัดที่แล้ว พวกเขาจะแพ้ทันที เพราะจะถูกกดดันอย่างต่อเนื่องด้วยบอลเร็ว
แต่ถ้ากลับไปใช้หลัง 4 แล้วอัดกลางมา 5 เหมือนที่เคยเล่นใน 2 เกมแรก อันนี้จะสูสีทันที เพราะการกดดันจากแดนบน จะเล่นงานพวกโครแอต ได้ง่ายกว่ามาเล่นรับแบบโซนเพรส
สองคู่นี้เหมือนกัน กลายเป็นบอลสูสีไปซะอย่างนั้น แต่มีความต่างคือ รัสเซีย กับ โครเอเชีย จะต้องวัดกันตั้งแต่การวางแผนบนหน้ากระดานของเจ้าภาพ
ผิดกับคู่อังกฤษ กับ สวีเดน ที่รู้อยู่แล้วว่า จะมากันยังไง ส่วนจะไปต่อได้มั๊ยอันนี้ นอกจากฝีเท้าแล้ว
ยังมีวาสนาของมาเกี่ยวดองด้วย!!!
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี