การแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 21 ที่ประเทศรัสเซีย รอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่เวลา 01.00 น.วันศุกร์ที่ 6 ก.ค.61 ที่เมืองคาซาน "แซมบ้า" ทีมชาติบราซิล แชมป์โลก 5 สมัย และเต็ง 1 ของรายการ พบกับ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" ทีมชาติเบลเยียม
สถิติคู่นี้ บราซิล เหนือกว่าด้วยการชนะ 3 เบลเยี่ยม ชนะ 1 ส่วนการเจอกันครั้งล่าสุด คือ ในฟุตบอลโลก 2002 ซึ่ง "แซมบ้า" ชนะไปได้ 2-0
สำหรับ 11 ตัวจริงที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม มีดังนี้
+ บราซิล : อลิสซอน เบ๊คเกอร์(ผู้รักษาประตู) - ฟ้ากเนอร์ , ติอาโก้ ซิลวา , ชูเอา มิรันดา , มาร์เซโล่ , เปาลินโญ่ , แฟร์นันดินโญ่ , วิลเลี่ยน , ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ , เนย์มาร์ และกาเบรียล เชซุส
+ เบลเยียม : ติโบต์ กูร์กตัวส์(ผู้รักษาประตู) - โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ , แว็งซ็องต์ ก็องปานี , แยน แฟร์ต็องเก้น , โธมัส เมอนิเย่ร์ , เควิน เดอ บรอยน์ , อักเซล วิตเซล ,มารูยาน เฟลไลนี่ , นาเซอร์ ชาดลี่ , เอแด็น อาซาร์ และโรเมลู ลูกาคู
เริ่มเกมครึ่งแรก มาได้เพียง 2 นาที เบลเยียม ได้ทักทายก่อน จากจังหวะบีบเกมในแดนกลาง สุดท้ายบอลจ่ายไปถึง เควิน เดอ บรอยน์ ได้กดเรียดนอกกรอบ แต่บอลหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว
นาทีที่ 7 บราซิล ได้ลุ้นจากลูกเตะมุม เนย์มาร์ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ ชูเอา มิรันดา โหม่งเสยต่อ และเป็น ติอาโก้ ซิลวา โดดเข้ามาตีเข่าจ่อๆ บอลไปชนเสาเด้งออกมา จากจังหวะต่อเนื่อง เบลเยียม สวนขึ้นมาทันที จังหวะสุดท้ายเป็น นาเซอร์ ชาดลี่ ได้ยิงด้วยขวา บอลเลี้ยวออกไปแบบได้ลุ้น
กระทั่งนาที จากจังหวะเตะมุมของ เบลเยียม นาเซอร์ ชาดลี่ เปิดบอลไปเสาแรก แว็งซ็องต์ ก็องปานี โดดโฉบเข้ามาโหม่งไม่โดน แต่บอลเลยไปโดน แฟร์นันดินโญ่ เข้าประตูตัวเองไป ทำให้ เบลเยียม ขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 13
นาที 19 บราซิล ได้จังหวะลุ้นจากลูกยิงไกลของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ บอลตรงกรอบ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ล้มตัวรับเข้าซองสบาย
นาที 25 เป็น บราซิล ที่ได้ลุ้นอีกจากลูกยิงไกลของ มาร์เซโล่ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ทุบบอลไว้ได้ ก่อนที่ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ จะเคลียร์บอลทิ้งออกไป
จากนั้นโอกาสเป็นของ เบลเยียม จากจังหวะลุยสวนกลับขึ้นมาจากแดนกลางของ โรเมลู ลูกาคู ก่อนจะจ่ายบอลต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ ที่เติมขึ้นมาทางขวา ก่อนที่ เดอ บรอยน์ จะกดเต็มๆด้วยขวา บอลพุ่งเสียบตาข่ายคมกริบ ชนิดที่ อลิสซอน เบ๊คเกอร์ พุ่งยังไงก็ไม่ทัน ช่วยให้ เบลเยียม นำห่างเป็น 2-0 ในนาที 31
นาที 35 บราซิล ได้ลุ้นจากจังหวะที่ มาร์เซโล่ เปิดเข้ามาในเขตโทษ บอลข้ามแนวรับ เบลเยียม มาถึง กาเบรียล เชซุส ได้โหม่งโล่งๆคนเดียวกลางประตู แต่ เชซุส ดันโหม่งสะบัดมากไป บอลออกข้างไป
นาที 37 บราซิล ได้ลุ้นอีก จาก ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ปั่นโค้งลูกถนัดจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ บินปัดเอาไว้ได้
นาที 40 เบลเยียม มาได้ลุ้นจากฟรีคิก และเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ที่ปั่นข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ อลิสซอน เบ๊คเกอร์ โดดปัดบอลออกไปได้
หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมยังเปิดเกมแลกกันสนุก แต่ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรกเป็น เบลเยียม ที่ออกนำ บราซิล 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง บราซิล เติมเกมรุกเต็มสูบ ด้วยการส่ง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลงมาแทน วิลเลี่ยน และนาที 51 มาได้ลุ้นจากจังหวะที่ มาร์เซโล่ เปิดเข้าไปที่หน้าปากประตู แต่ ฟีร์มิโน่ พุ่งเข้าไปเหยียดอีกนิดเดียวจะถึงบอล พลาดได้ประตูตีไข่แตก
บราซิล ยังคงลุยแหลก และนาที 55 จากจังหวะลุยเข้าไปของ กาเบรียล เชซุส ก่อนจะถูก แว็งซ็องต์ ก็องปานี สกัดล้มในเขตโทษ กรรมการเช็ควีเออาร์ แล้วตัดสินใจไม่ให้จุดโทษกับ บราซิล
นาที 58 บราซิล แก้เกมอีก ส่ง ดั๊กลาส คอสต้า ลงมาแทน กาเบรียล เชซุส แต่กลายเป็น เบลเยียม ที่มาได้ลุ้นหนีห่าง ในนาที 62 จากจังหวะกดด้วยซ้ายของ เอแด็น อาซาร์ บอลผ่านหน้าประตูออกไป
นาที 70 บราซิล ได้ลุ้นจากจังหวะยิงไกลของ ดั๊กลาส คอสต้า แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ล้มตัวรับไว้ได้อีก จากนั้น บราซิล เปลี่ยนตัวคนที่ 3 ส่ง เรนาโต้ ออกุสโต้ ลงมาแทน เปาลินโญ่ ในนาที 73
นาที 75 บราซิล ลุยขึ้นมาทางขวาจากการกระชากขึ้นมาของ ดั๊กลาส คอสต้า ก่อนจะกดเต็มๆ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟไว้ได้ บอลมาเข้าทาง เนย์มาร์ ได้ซ้ำในเขตโทษ ติดแนวรับ เบลเยียม อีก
อย่างไรก็ตาม นาที 76 บราซิล มาตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากจังหวะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เปิดเข้าไปในเขตโทษ และเป็น เรนาโต้ ออกุสโต้ ที่โหม่งเสียบเสาเข้าไป
นาที 80 บราซิล ต่อบอลลุยขึ้นมา จังหวะสุดท้ายเป็น เรนาโต้ ออกุสโต้ ที่ได้กดบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ กลางประตู บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปแบบได้ลุ้น
จากนั้นนาที 83 เบลเยียม เสริมเกมรับส่ง โธมัส แฟร์มาเล่น ลงมาแทน นาเซอร์ ชาดลี่ ที่มีอาการบาเจ็บ
จังหวะต่อมาเป็น บราซิล ที่ลุยขึ้นมาทางซ้ายโดย เนย์มาร์ ก่อนจะจ่ายเข้ากลางในกรอบเขตโทษให้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ วิ่งเข้ามากด แต่โดนไม่ดี บอลลอยออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 90 บราซิล เกือบได้ประตูที่เสมอ จากจังหวะครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ และเป็น เนย์มาร์ ที่กระโดดขึ้นเบียดกับ โธมัส เมอนิเย่ร์ แล้วไปโดนมือของ เมอนิเย่ร์ ล้มลงไป ผู้เล่นบราซิลฟ้องจะเอาจุดโทษ แต่กรรมการเช็ควีเออาร์ แล้วไม่ให้จุดโทษกับ บราซิล อีก
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 90+3 บราซิลได้ลุ้นตีเสมออีก จากจังหวะปั่นด้วยขวาของ เนย์มาร์ บอลจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ บินปัดออกไปได้
สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเป็น เบลเยียม ที่เอาชนะ บราซิล ไปได้อย่างสุดมันส์ 2-1 ผ่านเข้าไปตัดเชือกในรอบรองชนะเลิศพบกับ ฝรั่งเศส ที่เอาชนะ อุรุกวัย มาได้ 2-0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี