ประเดิมเริ่มต้นทุกสัปดาห์กับบทวิพากษ์เกมสำคัญศึกลูกหนังยุโรป ที่หนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกวันเสาร์แบบนี้
เริ่มปรุงรสกันที่ศึกแห่งสัตว์ปีกกับสองทีมที่แฟนเยอะ ระหว่าง“ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในเวลา 18.30 น.ที่สนามนิว เวมบลีย์
สองทีมนี้มีสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ตื่นเต้น และเร้าใจ แม้ในช่วงหลังห่างไกลซึ่งความสำเร็จที่“จับต้องได้”ก็ตาม
สเปอร์ส ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายคือ ลีกคัพ 2008 แต่ได้ลุ้นพรีเมียร์ลีกถึง 2 สมัยติดเมื่อซีซั่น 2016 กับ 2017
ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ครั้งสุดท้าย คือ ลีกคัพ เช่นกัน เมื่อปี 2012 แต่เกือบได้แชมป์ยุโรป สมัยที่ 6 เมื่อซีซั่นที่แล้ว
แนวคิดและอุดมการณ์ในการเล่นมีทั้งคู่ แต่การเสริมทัพในปีนี้ที่ต่างกันออกไป เพราะ สเปอร์ส เป็นทีมเดียวของลีกที่ไม่ซื้อใครเลยเป็นทีมแรกในยุคจำกัดกรอบเวลาตลาด ส่วน ลิเวอร์พูล คือแชมป์ในการจับจ่ายซีซั่นนี้ พร้อมกับเงื่อนไข “ต้องลุ้นแชมป์”
ทั้งคู่ออกสตาร์ทสุดเฉียบ เมื่อ 3 เกมแรกชนะได้ทั้งหมด กระทั่งถึงนัดที่ 4 ลิเวอร์พูล เอาตัวรอดมาได้จากคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม แต่“ภูเขา”ถูกบดบังด้วย“เส้นผม”จากจังหวะ“ความผิดพลาดส่วนบุคคล”ของ อลิสซอน เบคเกอร์ นายประตูค่าตัวแพงอันดับ 2 ของโลก
ประมาณว่า ขนาดชนะรวด 4 นัด 12 คะแนนเต็ม เพิ่งจะเสียประตูแรก แต่ถูกล้อ(ซะงั้น)
ผิดกับ สเปอร์ส ที่พังเป็นเกมแรกทั้งที่แทบจะตลอด 90 นาที เกมที่วิคาเรจ โร้ด อยู่ในกำมือพวกเขา แต่พอเจอทีเด็ดจากลูกตั้งเตะ 2 ที ชักตาตั้งแพ้นัดแรกทันที
ยังผลให้แทนที่จะเป็น ลิเวอร์พูล, เชลซี และสเปอร์ส ที่สตาร์ทชนะ 4 เกมรวด กลับกลายมาเป็น ลิเวอร์พูล, เชลซี และวัตฟอร์ด แทน!!!
n ผ่าแท็กติกทั้งสองทีม
สเปอร์ส ยังพลิกไปมากับแผนการเล่นระหว่าง แผงหลังหน้ากระดานเรียง 4 หรือการยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 คน และซีซั่นนี้เลือกเล่น “หน้าคู่” ด้วยการดัน ลูคัส มูร่า ขึ้นไปคู่กับ แฮร์รี่ เคน แต่ที่แน่ ๆ จะต้องปรับทัพอีกแน่ เพราะ เดเล่ อัลลี บาดเจ็บลงไม่ได้
เป็นไปได้ที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือไก่จะเลือกแผงหลัง 3 คน เพื่อบล็อกการเล่นของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ โดยตรง เพราะสองคนนี้ไม่ได้ยืนติดชิดเส้น พร้อมกับให้ เบน เดวิส กับ คีแรน ทริปเปียร์ มาช่วยกันปิดไลน์อีกทาง
ทีนี้ตรงกลาง คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นแกนนำ อีกสองคนคือเอริค ดายเออร์ กับ มุสซา เดมเบเล่ จะได้สตาร์ทก่อน เพื่อบดแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ที่จะวิ่งสลับกันไปมา แต่งาน สเปอร์ส จะเบาแน่ หากว่า เจอร์เก้นคล็อปป์ บอสต่อต้านเด็กเด็กบูฟื้นฟูเฮฟวี่ของหงส์แดง เลือก จอร์แดนเฮนเดอร์สัน ก่อน นาบี เกอิต้า
เหตุผลคือ นอกจาก เฮนโด้ จะไม่สามารถหมุนตำแหน่งกับ เจมส์ มิลเนอร์และจอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม ได้แล้ว ความคล่องตัวและวิชั่นส์ในการเล่นก็สู้เกอิต้า ไม่ได้
คือ เฮนโด้ อาจจะไม่ได้แย่ แต่เค้าทำหน้าที่ได้แค่เฉพาะจุดเท่านั้น แต่เกมแบบนี้กองกลางสำคัญสุด ๆ จริง ๆ
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ฟาบินโญ่ จะได้สตาร์ทเกมนี้เป็นนัดแรก ตามทรงแล้วต้องบอกว่า เป็นไปได้ยาก เกมหนักๆ แบบนี้แค่คุณเอาคนที่เข้าใจกันมานานอย่าง เฮนโด้ ลงเล่นก็ยังถือว่าเสี่ยงแล้ว
ที่เหลือคาดว่า ทั้งสองทีมไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน ยกเว้นตำแหน่งที่มีโอกาสตัดสินเกม นั่นคือด่านสุดท้าย เพราะเจ้าถิ่นมีปัญหาแน่ เนื่องจาก อูโก้โยริส ฟิตไม่ทัน ต้องใช้ มิเชล ฟอร์ม ที่คุณภาพต่างกันอย่างสิ้นเชิง
n ความหลังจากซีซั่นก่อน
จุดที่น่าสนใจก็คือ ซีซั่นก่อน การพบกันทั้งสองเกม ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของฤดูกาล เริ่มจากเกมแรกที่นิว เวมบลีย์แห่งนี้ที่จบด้วยสกอร์ 4-1 และทั้ง 4 ประตูที่หงส์เสียเกิดจากความผิดพลาดส่วนบุคคล
สองเม็ดแรกเล่นงาน เดยัน ลอฟเรน จนแทบไม่มีที่ยืน เขาถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ผ่านครึ่งชั่วโมงไปไม่นาน และดูเหมือนจะหมดอนาคต หมดความชอบธรรมในสีเสื้อแดงเพลิง แต่สุดท้าย คล็อปป์ ให้ไปพัก ก่อนเรียกมาปรับทัศนคติจนกลับมาแข็งแกร่งเป็นตัวหลักอีกครั้ง
จากนั้นในเกมที่แอนฟิลด์ ถือเป็นเกมสุดดราม่าแห่งซีซั่น เมื่อ หงส์แดง โดนจุดโทษท้ายเกมจากจังหวะน่ากังขาทั้งสองครา หนแรก เคน ยิงไปติดเซฟลอริส คาริอุส และเป็นที่มาของอีกสองแอ๊กชั่นต่อมา หงส์ขึ้นนำ 2-1 นาทีที่ 91 แต่อีกไม่กี่อึดใจ ไก่มาได้จุดโทษแบบผู้ตัดสิน โจนาธาน มอสส์ ไม่ได้ให้จังหวะแรก แต่ เอ๊ดดี้ สมาร์ท ผู้ช่วยผู้ตัดสินโบกธงว่า ต้องเป็นจุดโทษ
อีกทั้งการบดบี้ล่าตำแหน่งดาราซัลโวของ ซาลาห์ กับ เคน ทำให้เกิดการพิพาทต่อเนื่องของแฟนบอลทั้งสองทีม จนเป็นที่มาของคำว่า “เคนกองหน้าบลูทูธ”
n 11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส 3-4-1-2 : มิเชล ฟอร์ม-โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวิซอน ซานเชซ, แยน แฟร์ตองเก้น-คีแรน ทริปเปียร์, เอริค ดายเออร์, มุสซ่า เดมเบเล่, เบน เดวิส-คริสเตียน เอริคเซ่น-ลูคัส มูร่า และแฮร์รี่ เคน
ลิเวอร์พูล 4-3-3 : อลิสซอน เบ็คเกอร์-เทรนท์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จีล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน-จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, เจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิต้า-โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ฟีร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี