เกมเร้าใจไม่แพ้ที่ไหนต้องนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมทช์
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์นี้ มีการดวลแข้งทั้งหมด 3 คู่ โดยมีเกมสำคัญอยู่ถึง 2 สนาม นั่นคือเกมแดงเดือด ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พบกับคู่ปรับตลอดกาล “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดบ้านทำศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ กับ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส ซึ่งปรีวิวการดวลแข้งทั้งหมดมีดังนี้
19.30 น. ลิเวอร์พูล-แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ศึกแห่งศักดิ์ศรีดาร์บี้แมทช์ของประเทศอังกฤษ “หงส์แดง” ที่ออกสตาร์ทชนะ 2 เกมติดและไม่เสียประตู แต่ดันมาเสียฟอร์มเล็ก ๆ ในบอลถ้วยลีกคัพ เมื่อชนะ น็อตต์ส เคาน์ตี้ ทีมจากลีก ทู หรือ ดิวิชั่น 4 แบบต้องลุ้นถึงช่วงต่อเวลา 4-2 เกมนี้รอทดสอบความฟิตของ โคโล่ ตูเร่ ปราการหลังจอมเก๋าที่เดี้ยงจากเกมลีกคัพ รวมไปถึง โจ อัลเลน มิดฟิลด์เลือดเวลส์ แต่ อาลี ซิสโซโก้ แบ๊คซ้ายตัวใหม่ที่ยืมจากบาเลนเซีย เดี้ยงหนักพัก 6 วีค ที่เหลือนั้นพร้อมรบนำโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟลิปเป้ คูตินโญ่ และแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่กำลังฮ็อต ลงเตะเกมลีก 7 นัดหลัง ยิงไป 8 ประตู
โดย “หงส์แดง” ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส หากชนะได้จะออกสตาร์ทดีสุดในรอบ 19 ปี และถ้าไม่เสียประตูจะทำให้เป็นหนแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 2005-2006
ทางฝั่ง “ปีศาจแดง” ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทีมจากนัดที่เสมอกับ เชลซี 0-0 เมื่อเกมมันเดย์ไนท์ ซึ่งเป็นหนแรกในรอบ 82 นัดที่พวกเขาเสมอกับคู่แข่ง 0-0 โดยนัดนี้ยังไม่มี ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ๊คขวาแซมบ้า ที่ยังบาดเจ็บ ทำให้ ฟิล โจนส์ ได้ลงสนามแทนต่อไป รวมไปถึงที่เดี้ยงจนอดลงแน่ ๆ คือ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และนานี่ ขณะที่แนวรุก เวย์น รูนี่ย์ ที่เพิ่งประกาศจะอยู่กับทีมต่อไป จะได้เล่นเกมรุกร่วมกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ แดนนี่ เวลเบ๊ค โดยมี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เป็นกองหน้าตัวเป้า
สำหรับ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ตลอด 3 นัดหลังสุดที่เจอกัน ด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งหมด พร้อมกับมีสถิติที่เหนือกว่า ด้วยการชนะ 74 เสมอ 51 แพ้ 62 นัด อย่างไรก็ตาม เดวิด มอยส์ กุนซือผีแดง ไม่เคยทำทีมบุกมาชนะที่แอนฟิลด์ ได้เลย มีสถิติ เสมอ 7 แพ้ 5 ในสมัยที่คุมทัพเอฟเวอร์ตัน
11 นักเตะตัวจริงที่จะลงสนาม ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเลต์, เกล็น จอห์นสัน, โคโล่ ตูเร่, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้, ลูคัส เลว่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ยาโก้ อัสปาส
แมนฯ ยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา, ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค, เวย์น รูนี่ย์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะวัดเก๋ากับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อีกครั้ง
19.30 น.เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน-สวอนซี ซิตี้ : “แบ๊กกี้ส์” เปิดบ้านเกมนี้พร้อมกับได้ นิโกลาส์ อเนลก้า กลับมาร่วมทัพอีกครั้ง หลังจากทำใจได้ที่เอเยนต์ส่วนตัวเสียชีวิต แต่จะไม่มี เบน ฟอสเตอร์ นายประตูคนสำคัญที่เจ็บข้อเท้าหักพักยาว 12 สัปดาห์ และมาเตจ วายดร้า หัวหอกที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าในเกมลีกคัพ กับ นิวพอร์ต เคาน์ตี้
ทางฝั่ง “หงส์ขาว” ที่เพิ่งผ่านเกมยูโรป้า ลีก มาหมาด ๆ นัดนี้จะส่งตัวที่พักจากเกมดังกล่าวลงเล่นเป็นตัวหลัก ประกอบด้วย แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ ปราการหลังร่างยักษ์, วิลเฟรด โบนี่ หัวหอกจอมแกร่ง และจอนโจ เชลวี่ย์ ตัวรุกหัวเลี่ยน แต่จะไม่มี นีล เทย์เลอร์ แบ๊คซ้าย และนาธาน ดายเออร์ ปีกจอมเลื้อย ที่ยังเจ็บไม่พร้อมสำหรับเกมนี้
สำหรับคู่นี้เจอกันมาทั้งหมด 31 นัด สวอนซี มีสถิติที่ดีกว่าเล็กน้อย ด้วยการชนะ 13 และเวสต์บรอมวิช ชนะ 11
22.00 น.อาร์เซนอล-สเปอร์ส : ดาร์บี้แมทช์นอร์ธ ลอนดอน เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี “ปืนใหญ่” มีข่าวดีเมื่อจะได้ โลรองต์ กอสซิแอลนี่ ปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศส ที่หายบาดเจ็บที่ศรีษะ และพ้นโทษแบนกลับมาร่วมกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ คุมแนวรับ ขณะที่แผงกลางได้ แจ๊ค วิลเชียร์ กับ แอร่อน แรมซี่ย์ กลับมาโม่แข้งอีกครั้ง หลังจากผ่านฟิตเรียบร้อย แต่ข่าวร้ายก็คือ “พรินซ์ โพลดี้” ลูคัส โพดอลสกี้ ดาวเตะทีมชาติเยอรมนี บาดเจ็บหนักพักเป็นเดือน เช่นเดียวกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ปีกดาวรุ่ง และ มิเคล อาร์เตต้า จอมทัพชาวสแปนิช ที่เดี้ยงอยู่ก่อนหน้านี้
ทางฝั่ง “ไก่เดือยทอง” เสริมทัพเข้ามาอย่างมากมายในช่วงวันสองวันนี้ ทำให้ อังเดร วิลลาช-โบอาช กุนซือจอมเนี๊ยบ ต้องตัดสินใจอีกครั้งว่า จะกล้าเปลี่ยนทีมที่กำลังเล่นได้ดีหรือไม่ โดยผลงานในลีกของพวกเขานั้นชนะมาสองเกมติดและยังไม่เสียประตู แต่ก็ยังพังประตูด้วยลูกโอเพ่น เพลย์ ยังไม่ได้ เกมนี้เคฟิต แอร่อน เลนน่อน แต่ที่ลงไม่ได้แน่นอนคือ เอ็มมานูแอล อเดบายอร์ กับ เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ ที่เจ็บมาตั้งแต่ปีก่อน
คู่นี้เจอกันในช่วงหลังถล่มประตูกันเละเทะ 6 เกมหลังสุด ยิงรวมกันถึง 31 ประตู โดยสกอร์ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม สองปีหลังสุดนั้น อาร์เซนอล ชนะด้วยสกอร์ 5-2 ส่วนสถิติตลอดกาลนั้น อาร์เซนอล เหนือกว่าด้วยการชนะ 71 เสมอ 45 สเปอร์ส ชนะ 54
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19:30 น.ลิเวอร์พูล Vs แมนฯ ยูไนเต็ด
CTH STADIUM 1
19:30 น.เวสต์บรอมวิช Vs สวอนซี
22:00 น.อาร์เซน่อล Vs สเปอร์ส
CTH STADIUM 1
ลาลีกา สเปน
00:00 น.โซเซียดาด Vs แอต.มาดริด
ทรูสปอร์ต HD2 (151)
02:00 น.เซบีย่า Vs มาลาก้า
02:00 น.บาเลนเซีย Vs บาร์เซโลน่า
ทรูสปอร์ต HD2 (151)
17:00 น.เรอัล มาดริด Vsบิลเบา
ทรูสปอร์ต HD2 (151)
22:00 น.เอสปันญ่อล Vs เบติส
ทรูสปอร์ต HD2 (151)
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
01:45 น.โบโลญญ่า Vs ซามพ์โดเรีย
01:45 น.ซาสซูโอโล่ Vs ลิวอร์โน่
01:45 น.คาตาเนีย Vs อินเตอร์ทรูสปอร์ต 2
01:45 น.เจนัว Vs ฟิออเรนติน่า ทรูสปอร์ต 1
01:45 น.อูดิเนเซ่ Vs ปาร์ม่าทรูวิชั่นส์ 10
01:45 น.อตาลันต้า Vs โตริโน่ ทรูสปอร์ต 7
01:45 น.เอซี มิลาน Vs กายารี่ ทรูสอร์ต 6
23:00 น.โรม่า Vs เวโรน่า ทรูสปอร์ต 1
บุนเดสลีกา เยอรมัน
20:30 น.สตุ๊ตการ์ท Vs ฮอฟเฟ่นไฮม์GMM ฟุตบอล เอ็กซ์ตร้า
22:30 น.แฟร้งค์เฟิร์ต Vs ดอร์ทมุนด์ GMM ฟุตบอล เอ็กซ์ตร้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี