เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ เซอร์แม็ตต์ บัสบี้ สองตำนานแมนฯยูไนเต็ด ที่คุมทีมครบ 1,000 เกม เช่นเดียวกับ อาร์แซน เวนเกอร์(ล่าง) คือคนล่าสุดที่ทำสถิตินี้ได้ในทีมเดียวกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมมาดละเมียดของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทำสถิติสุดหรูหราด้วยการคุมทัพครบ 1,000 เกม
การคุมทีมใดทีมหนึ่งครบ 1,000 นัดถือว่าไม่ธรรมดาอย่างมาก และทำให้ เวนเกอร์ ก้าวขึ้นไปเป็น 1 ใน 4 ตำนานลูกหนังเมืองผู้ดี
ยืนอยู่บนจุดเดียวกับที่ เซอร์แม็ตต์ บัสบี้, เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และดาริโอ กราดี้ กวักมือรออยู่นานแล้ว
สองท่านแรก ทุกคนคงทราบดี เพราะนั่นคือสุดยอดกุนซือของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่คนหลังอย่าง กราดี้
เค้าเป็นใคร หลายคนเลิกคิ้วสงสัยแน่นอน
ลูกครึ่งอิตาเลียน-อิงกะแลนด์ผู้นี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่อุทิศการทำงานให้กับวงการฟุตบอลมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมอย่างยาวนานสุด ๆ กับ ครูว์ อเล็กซานดร้า
กราดี้ เป็นคนรูปร่างเล็ก สูงเพียง 162 เซนติเมตร เกิดที่มิลาน สูญเสียคุณพ่อตั้งแต่ยังเด็ก โดยเขาอยู่กับแม่ที่กรุงลอนดอนหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง จากนั้นก็เริ่มเรียนเป็นครูเกี่ยวกับสุขศึกษา ก่อนจะมาเล่นฟุตบอลอาชีพกับ ซัตตัน ยูไนเต็ด และท็อตติ้ง แอนด์ มิทแฮม ยูไนเต็ด จากนั้นตัดสินใจมาเปิดร้านขายของที่ชื่อว่า “กราดี้ สปอร์ตส์” ต่อด้วยการเข้าสู่วงการโค้ชอย่างเต็มตัว ด้วยการเข้ามาเป็นผู้ช่วยโค้ชของเชลซี เมื่อปี 1971 ด้วยวัยเพียง 29 ปีเท่านั้น ก่อนจะมารับงานที่ ซัตตัน, ดาร์บี้, วิมเบิลตัน และเลย์ตัน โอเรียนท์
ดาริโอ้ กราดี้
จนกระทั่งปี 1978 กราดี้ เข้ามารับงานวิมเบิลดัน ในเดือนมกราคม ปี 1978 ก่อนจะพาทีมขึ้นชั้นสู่ลีกอาชีพระดับดิวิชั่น 4 เมื่อปี 1978-79 กระทั่งนำทีมขึ้นชั้นสู่ดิวิชั่น 3 และก็ตัดสินใจมารับงานกับ คริสตัล พาเลซ ในระดับดิวิชั่น 1 ปี 1981
แต่โลกไม่ได้สวยไปทั้งหมด กราดี้ ไม่สามารถช่วยทีมได้ พาเลซ ตกชั้น จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน เขาก็ถูกปลดจากตำแหน่ง และแอบไปเลียแผลใจกระทั่งปี 1983 ก็กลับมาคุมทีมอีกครั้ง และสร้างตำนานอันยิ่งใหญ่กับ ครูว์ อเล็กซานดร้า
กราดี้ คุมทัพตั้งแต่มิถุนายน 1983 ยาวนานมาจนถึงปี 2007 และได้รับการยกระดับขึ้นเป็นผู้อำนวยการด้านเทคนิคของสโมสร
ด้วยการทำสถิติคุมทีม 1,244 นัด
อย่างไรก็ตามผู้ที่มาคุมทัพแทนอย่าง สตีฟ ฮอลแลนด์ กลับทำทีมดิ่งเหว ทำให้ กราดี้ ต้องเข้ารับบทกุนซือชั่วคราว 1 เดือนในช่วงพฤศจิกายน 2008 กระทั่งตุลาคมปี 2009 กราดี้ ก็ต้องเข้ามารับงานอีกครั้ง จนกระทั่งพฤศจิกายน ปี 2011 ก็กลับไปเป็นผู้อำนวยการด้านฟุตบอลของทีมอีกที
ตลอดชีวิตการทำงานของ กราดี้ เขาทำทีมเกือบขึ้นชั้นสู่ลีกสูงสุดเมื่อปี 1997 และที่สร้างชื่อให้กับเขาอย่างมากนั่นก็คือ การสร้างนักเตะระดับเยาวชนขึ้นชั้นมาเล่นอาชีพในลีกระดับสูงคนแล้วคนเล่า
ภาพเมื่อครั้งที่ กราดี้ คุมทัพในช่วงแรกกับครูว์
ยกตัวอย่างที่ชัดเจนมาก ๆ ก็คือ เดวิด แพล็ท, ร็อบ โจนส์, เจฟฟ์ โธมัส, แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์, นีล เลนน่อน, ร็อบบี้ ซาเวจ, แอชลี่ย์ วอร์ด, เซ็ธ จอห์นสัน และ เวย์น คอลลินส์ ในยุค 80-90
ตามด้วยุคหลังอย่าง ร็อบ ฮัลล์, ดีน แอชตัน, เดวิด วอห์น, ไมเคิล โอคอนนอร์, บิลลี่ โจนส์, นิกกี้ เมย์นาร์ด, แอชลี่ย์ เวสวู้ด และนิค พาวเวลล์
นักเตะเหล่านี้ผ่านการเจียระไนของ กราดี้ ทั้งสิ้น
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ กราดี้ ได้รับเครื่องราชย์ รวมถึงได้รับรางวัลพีเอฟเอ เมอริต อวอร์ด ก่อนหน้าตำนานลูกหนังหลาย ๆ คนด้วยซ้ำ
ที่สำคัญ กราดี้ ได้รับการเชิดชูเกียรติ ตั้งชื่อถนนแห่งหนึ่งในเมืองครูว์ พร้อมกับได้ปริญญาเอกดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยลาจห์โบโร่ อีกด้วย
บทสรุปก็คือ 3 ยกที่”ยอดครูแห่งครูว์”คุมทัพไปนั้นมีจำนวนมากถึง 1,362 นัด
ดังนั้น หากโลกนี้ยอมรับว่า เซอร์แมตต์ บัสบี้, เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และอาร์แซน เวนเกอร์ คือสุดยอดบรมกุนซือ อย่าลืมจารึกด้วยว่า ดาริโอ้ กราดี้
คือยอดบรมครูแห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดีด้วย...เช่นกัน!
(ซ้าย) ร็อบบี้ ซาเวจ สมัยลงเล่นให้ครูว์ (ขวา) เดวิด แพล็ท ผลงานชิ้นเอกจากการปั้นของ กราดี้
บี แหลมสิงห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี