“เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่แห่งเยอรมนี เจ้าของแชมป์บุนเดสลีกา มีปัญหานักเตะทั้งเจ็บทั้งแบนเพียบ ในการทำศึกกับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 คืนวันพุธนี้ เวลา 01.45 น. โดยเกมแรกทั้งคู่เสมอกันมา 1-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เกมนี้เจ้าบ้านไม่มี บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ฆาบี้ มาร์ติเนซ สองกองกลางคนสำคัญของทีมที่ติดโทษแบนพร้อมกัน รวมไปถึง ติอาโก้ อัลคันตาร่า และเซอร์ดาน ชาคิรี่ ที่บาดเจ็บทั้งคู่ ทำให้แดนกลางเสือใต้ต้องปรับอื้อซ่า อย่างไรก็ตาม บรรดาแข้งหลักทั้ง โธมัส มุลเลอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, ฟรองค์ ริเบรี่, ฟิลิปป์ ลาห์ม และโทนี่ โครส พร้อมลงสนาม
ขณะที่ “ปีศาจแดง” จะต้องเข็น เวย์น รูนี่ย์ ลงสนามทั้ง ๆ ที่บาดเจ็บ ทำให้ต้องฉีดยาบำบัดความเจ็บลงสนาม เนื่องจากแนวรุกไม่มีตัวให้เลือกมากนักเพราะ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยังไม่หายเจ็บ ส่วนแดนกลางรอเช็คฟิตของ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ลงเล่นเกมยุโรปมาโดยตลอด รวมไปถึง ไมเคิล คาร์ริค อีกคนที่ต้องลุ้นว่าฟิตพอจะลงเล่นหรือไม่ ส่วน แอชลี่ย์ ยัง กับ จอนนี่ อีแวนส์ ผ่านฟิตแล้วก็น่าจะต้องรอโอกาสในฐานะตัวสำรองไปก่อน
อีกคู่ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา สเปน จะเปิดบ้านดวลกับ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า เกมนี้เจ้าบ้านรอทดสอบความฟิตของ อาร์ดา ตูราน กองกลางชาวเติร์ก และดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกตัวเก่ง ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ทีเหลือนั้นถือว่าพร้อมลงสนามทั้งหมด นำโดย โกเก้, กาบี้, ดาบิด ซิลบา และฆวนฟราน
ทางฝั่ง บาร์ซ่า มีปัญหาตรงแนวรับเมื่อ เคราร์ด ปีเก้ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวแกร่งบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว ทำให้ชวดลงเล่น รวมไปถึงต้องเช็คฟิตของ การ์เลส ปูโยล ตัวเก๋าอีกคน ส่วนตำแหน่งด่านสุดท้าย บิคตอร์ บัลเดซ บาดเจ็บทำให้ มานูเอล ปินโต้ ต้องทำหน้าที่ต่อไป สำหรับคู่นี้นัดแรกเสมอกันมา 1-1
ทางด้าน เจย์ โรดริเกซ แกนรุกตัวฉกาจจาก “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน โชคร้ายสุด ๆ เมื่อหมดสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกลางปีนี้กับทีมชาติอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดย เจย์ ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่พาทีมบุกไปพ่ายให้กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ 4-1 ซึ่งทีมแพทย์ของโสมสรได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด และ ยืนยันว่าหัวหอกวัย 24 ปี เอ็นหัวเข่าฉีก ต้องพัก 6 เดือนด้วยกัน
จากการบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้ อังกฤษ ต้องขาดแนวรุกไปแล้ว 2 คนโดยก่อนหน้านี้เป็น ธีโอ วัลค็อตต์ ที่เจ็บหนักพักยาว 6 เดือนไปแล้ว
ส่วนเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสำคัญลุ้นแชมป์วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายนนี้ ระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนามแอนฟิลด์ นั้น ล่าสุดสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ประกาศเลือก มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก ลงทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน
โดย แคล็ตเท่นเบิร์ก เพิ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลก หลังจากทำหน้าที่ตัดสินเกมแดงเดือด นัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปสอนบอล “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไส้แตกคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกมนัดดังกล่าวนี้ แคล็ตเท่นเบิร์ก สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป่าลูกจุดโทษให้กับ ลิเวอร์พูล ถึง 3 ลูกทั้งที่เป็นการเล่นในสนามของแมนฯยูฯ พร้อมกับไล่ เนมานย่า วิดิช ปราการหลังกัปตันทีม "ปีศาจแดง" ออกจากสนามอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ตัดสินวัย 39 ปีผู้นี้ ทำหน้านี้ในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 23 นัด แจกใบเหลือง 79 ใบ และใบแดง 2 ใบด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี