นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 169 ล้านหุ้น ที่หุ้นราคาหุ้นละ 6.80 บาท คิดบนอัตราราคาต่อกำไร (P/E) ที่ 11 เท่า ซึ่งจะต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่อยู่ 12-13 เท่า โดยคาดว่าจะเปิดจองในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ได้ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน โดยเงินที่ได้จากการขายหุ้นใช้ชำระหนี้ราว 900 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลทำให้มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) เหลือ 1.2 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 5 เท่า และที่เหลือจะใช้ไปลงทุนในโรงไฟฟ้าและเป็นเงินทุนหมุนเวียน

สำหรับรายได้ในปีนี้คาดว่าจะมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 4,008.80 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรก สามารถทำรายได้แล้ว 2,529.48 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้าสัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากธุรกิจพลังงานประมาณ 30% และธุรกิจน้ำตาลประมาณ 70% ส่วนกำไรปีนี้จะเติบโตมากกว่า 10% โดยในครึ่งปีแรกสามารถทำได้แล้ว 110.03 ล้านบาท

“รายได้และกำไรปีนี้ก็คิดว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยในส่วนของกำไรในปีนี้คาดว่าจะโตเป็นเลข 2 หลัก และในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะรับรู้กำไรจากธุรกิจพลังงานที่ในปีนี้มีกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลประมาณ 15% ส่วนปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 30% และตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนให้เป็น 50% ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากเรามีปริมาณอ้อยเพิ่มมากขึ้น” นายอนันต์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำตาลได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และในปัจจุบันคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณความต้องการสูงกว่าผลผลิต โดยปัจจุบันราคาน้ำตาลทั่วโลกจะอยู่ที่ 16 เซนต์/ปอนด์ โดยประเทศไทยถือว่าเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ในการผลิตน้ำตาล และเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล นอกจากนี้ทางรัฐบาลได้สนับสนุนในการเปลี่ยนจากการทำนาเป็นปลูกอ้อยมากขึ้น เพื่อที่จะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีรายได้สูงขึ้น โดยโรงงานน้ำตาลบุรีรัมย์ มีจุดเด่นคือให้ผลตอบแทนในการผลิตที่ค่อนข้างสูงและสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกอ้อยรอบโรงงานทำให้เป็นการลดต้นทุนในการขนส่งอีกด้วย