นางสาวเอื้อพันธ์ เพ็ชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย หรือ KAsset เปิดเผยว่าได้เปิดตัวบริการใหม่ให้ลูกค้าสามารถชื้อ-ขายกองทุนรวมผ่านแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking Plus บนมือถือ หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพื่อเพิ่มช่องทางและช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมด้านการลงทุน นอกเหนือไปจากการใช้บริการผ่านทางสาขาของธนาคารกสิกรไทย

“ปัจจุบันการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอินเตอร์เนต หรือ Internet Banking ได้พัฒนาไปอีกขั้นจนเข้าสู่ยุคของการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Banking และกำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น บลจ.กสิกรไทย จึงได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย พัฒนาการใช้การงานแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking Plus ด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ให้ทำธุรกรรมซื้อขายกองทุน
ได้บนมือถือ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะช่วงสิ้นปี ที่มีความต้องการชื้อกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) เป็นจำนวนมาก และที่พิเศษคือสามารถชำระค่าซื้อ LTF/RMF ด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทยได้” นางสาวเอื้อพันธ์กล่าว

สำหรับวิธีการใช้งาน กรณีผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมกสิกรไทยและมีการใช้งานแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking Plus อยู่และมีการอัพเดทเพื่อให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ก็สามารถเข้าสู่ระบบและคลิกไปที่เมนูกองทุนรวม โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อกองทุน
รวมที่เคยซื้อแล้ว หรือเลือกซื้อกองทุนใหม่ได้ เบื้องต้นระบบจะเปิดให้ซื้อกองทุนใหม่เฉพาะในกลุ่ม LTF-RMF เท่านั้น

นอกเหนือไปจากบริการซื้อขายกองทุนรวมผ่านมือถือแล้วในแอพพลิเคชั่น K-Mobile BankingPlus ลูกค้ายังสามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวในพอร์ตการลงทุนของตนเอง รวมถึงตรวจสอบกำไร-ขาดทุนได้ด้วย โดยคลิกไปที่เมนู My Port ส่วนในแง่ความปลอดภัยของการใช้งาน ลูกค้ายังมั่นใจได้ เนื่องจากจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานระดับโลก

“บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการให้บริการ ควบคู่ไปกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมใหม่ๆ ออกมาอยู่ตลอดเวลา จะเห็นได้ว่าบริษัทเรายังมีบริการ K-Cyber Invest หรือบริการลงทุนในกองทุนรวมทางอินเตอร์เนตกสิกรไทย ซึ่งเราได้ปรับปรุงและพัฒนาให้มีความทันสมัย อาทิ บริการเสริม DIY Target Fund ตัวช่วยที่ทำให้ผู้ลงทุนสามารถวางแผนเป้าหมายการลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่บริการชื้อ-ขายกองทุนรวมผ่านแอพพลิเคชั่ K-Mobile Banking Plus นับว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งของการพัฒนาระบบการให้บริการ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะลูกค้ากองทุนรวมที่มีการใช้งานแอพพลิเคชั่นอยู่แล้ว เนื่องจากมีขั้นตอนการใช้งานที่ง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องไปที่สาขา สามารถซื้อขายกองทุนได้บ่อยขึ้น ทยอยลงทุนได้ตลอดทั้งปี พร้อมทั้งหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสมได้ด้วยตนเองและยังทันต่อสถานการณ์ด้วย” นางสาวเอื้อพันธ์กล่าว