นายวิพล วรเสาหฤท รองผู้จัดการใหญ่ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารไทยณิชย์กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีของทั้งระบบในไตรมาส 1 ปี 2559 ขยายตัวเพียง 2-3% และคาดว่าจะยังโตต่ำต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ หรือขยายตัวเพียง 1-2% ส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้โต 4-6% ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อคงค้างเติบโต 4-6% จากปี 2558 ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 3.6 แสนล้านบาท และตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 80,000-100,000ล้านบาท

นายวิพลกล่าวว่า คุณภาพสินเชื่อเอสเอ็มอี ยังสามารถดูแลได้ โดยจะพยายามรักษาสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ให้ต่ำกว่า 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2.5% และพบว่าขณะนี้มีสัญญาณการเบิกจ่ายสินเชื่อเกินวงเงิน หรือ OD ลดลงประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวดังนั้นลูกค้าจึงไม่กล้าขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่ธนาคารให้การดูแลลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างใกล้ชิด ตั้งทีมติดตามลูกค้า แบ่งเป็น 2 ส่วน คือลูกค้าขนาดกลาง และ ลูกค้าขนาดย่อม เพื่อช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่ยังไม่อยู่ในสถานะไม่ชำระหนี้ โดยดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ และลดอัตราการผ่อนชำระ ซึ่งสามารถช่วยลูกค้าอยู่รอดได้ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยธนาคารแนะนำให้ลูกค้าบริหารต้นทุนแทนการเร่งยอดขาย หรือเร่งโปรโมท และการตลาด เพราะจะเป็นการเพิ่มต้นทุนให้สูงขึ้น โดยธนาคารนำเสนอแพ็กเกจการบริการทางการเงินให้กับ 5 อุตสาหกรรม คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภาครัฐ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจเคมีภัณฑ์ ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ และธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เพื่อช่วยลดต้นทุนการทำธุรกรรมให้ลูกค้า

นายวิพลกล่าวอีกว่า ได้จับตาธุรกิจที่ทำกิจการตามกระแส เช่นธุรกิจร้านกาแฟอพาร์ตเม้นท์ ที่มีการเปิดกิจการเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นแฟชั่น ซึ่งเมื่อถึงระดับหนึ่งธุรกิจเหล่านี้จะมีปัญหา เพราะไม่สามารถสร้างจุดขายให้กับธุรกิจตัวเองได้ โดยในปีนี้ธนาคารมองธุรกิจเอสเอ็มอีดาวรุ่งปี 2559 คือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจสื่อสาร 4จี ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ดิจิตอลเทคโนโลยี และ ธุรกิจstart up ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ส่วนธุรกิจดาวร่วง ปี 2559 คือ เกษตรพื้นฐาน ธุรกิจติดแก๊สรถยนต์ ธุรกิจสื่อโฆษณาดั้งเดิม ธุรกิจเหล็ก เป็นต้น