15 มิ.ย.59 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด กสทช.ว่า ที่ประชุม กสทช.อนุมัติร่าง ประกาศ กสทช.เรื่อง หลักเกณฑ์การและวิธีการจัดเก็บเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ พ.ศ..... หรือ USO และนำร่างประกาศฯ ดังกล่าว นำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) และนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กสทช.เพื่ออนุมัติให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ร่างประกาศฯ กสทช.มีสาระสำคัญในเรื่องของการจัดเก็บรายได้ โดยผู้ประกอบการตามร่างหลักเกณฑณ์ฯ นั้น ได้พิจารณาตามที่มีรายได้ของสถานี ได้แก่
1. ผู้ประกอบการที่มีรายได้ 5 ล้านบาทแรก คิดอัตราค่าธรรมเนียม 0.5% ของรายได้รวม
2. ผู้ประกอบการที่มีรายได้ 5 ล้านบาท ไม่เกิน 50 ล้านบาท เก็บค่าธรรมเนียม 0.75%
3. ผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50 ล้านบาท ไม่เกิน 500 ล้านาท เก็บค่าธรรมเนียม 1%
4.ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 500 ล้านบาท ไม่เกิน 1 พันล้านบาท คิดค่าธรรมเนียม 1.75%
5. ผู้ประกอบการที่มีรายได้เกิน 1 พันล้านบาท ขึ้นไป คิดค่าธรรมเนียม 2%
ทั้งนี้เมื่อร่างหลักเกณฑ์ผ่านบอร์ด กสทช.จะบังคับกับทุกแพลตฟอร์มต้องจ่ายค่าธรรมเนียม USO โดยจะไม่คิดค่าธรรมเนียมดังกล่าวย้อนหลัง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ดำเนินในการแจกคูปองเพิ่มเติมโครงการสนับสนุนประชาชนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การรับชมโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล สำหรับครัวเรือนที่ได้รับสิทธิเพิ่มเติม ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้อนุมัติในหลักการให้สำนักงานดำเนินการแจกคูปองเพิ่มเติมให้กับครัวเรือน โดย 4 กลุ่ม ได้แก่
1.ครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับคูปองรอบแรกจากไปรษณีย์
2.ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านและเจ้าบ้านขึ้นภายหลังวันที่ 16 ก.ย. 57
3.ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านมีผู้อาศัยแต่ไม่มีเจ้าบ้าน
4.มีทะเบียนบ้านชั่วคราวและมีเจ้าบ้าน
รวมทั้งสิ้น 5.1 ล้านใบ จากที่แจกไปรวมทั้งสิ้น 14.1 ล้านใบ โดยมีประชาชนที่นำมาคูปองมาแลกจำนวน 8.7 ล้านใบ ส่วนที่เหลือ อีก 1 ล้านใบ เป็นกลุ่มที่ส่งไม่ถึงมือประชาชนและไม่นำมาแลก
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กสทช.ได้สำรวจพื้นที่และรวบรวมประเด็นปัญหาในการแจกคูปองมาแล้ว โดยบอร์ด ได้เสนอให้มีการแจกคูปองโดยใช้บัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ในการแจกคูปอง จากเดิมการแจกต้องเอาคูปองไปแสดงสิทธิในการซื้อ จะใช้วิธีการส่งหนังสือแจ้งสิทธิไปยังครัวเรือนที่ได้รับสิทธิ แล้วให้เจ้าบ้านนำบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดไปใช้สิทธิ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายค่าพิมพ์คูปองเพิ่มเติม และไม่ต้องมีไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ เมื่อประชาชนได้รับสิทธิแล้ว สามารถนำบัตรประชาชนไปแลกในจุดแลกเปลี่ยน เนื่องจากบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์ของกรมการปกครองอยู่แล้ว นอกจากนี้ เพื่อป้องกันการทุจริตจะมีวิธีการป้องกันการกระทำความผิดด้วยการติดกล้องเพื่อถ่ายรูปเจ้าของบัตรประชาชนและกล่องทีวีดิจิตอลไว้เพื่อนำข้อมูลไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบได้
ขณะเดียวกัน บอร์ดกสทช.ได้อนุมัติจัดซื้อจัดจ้างประชาสัมพันธ์เปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล โดยผู้ชนะการประมูลคือ บริษัท ออฟเทนเมนท์ จำกัด เนื่องจากเสนอราคาต่ำสุดที่ 53.56 ล้านบาท (กรอบราคากลาง 60.5 ล้านบาท ) การพิจารณาจะมีผู้รับการคัดเลือก 6 บริษัท ผ่านคุณสมบัติ 5 บริษัท ทั้งนี้ เมื่อบอร์ดอนุมัติกรอบลงทุน จะเริ่มอนุมัติสัญญา เพื่อดำเนินการประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอลต่อไป
นายฐากร กล่าวว่า เมื่อวาน (14 มิ.ย.59) ตนได้รับหนังสือแจ้งจากนายพิชญ์ โพธารามิก ประธานบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ หรือ แจส ขอเลื่อนชำระเงินค่าเสียหายกรณีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ไม่ชำระเงินประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) โดยแจสยินดีนำเงินมาชำระ แต่ขอชำระในวันที่ 30 มิ.ย. จากเดิมต้องชำระภายในวันที่ 16 มิ.ย. จึงต้องมีการคิดอัตราดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นจำนวนเงิน 581,653.31 บาท ที่จ่ายเงินช้าเพิ่ม เป็นเวลา 14 วัน คิดเป็นเงินจำนวน. 2,005,644.91 ล้านบาท จากเดิมที่ได้เรียกให้มาชำระภายในวันที่ 16 มิ.ย.59 เป็นจำนวน 199,423,991.61 บาท
ส่วนความคืบหน้า กรณีการชำระค่าใบอนุญาต 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) สำนักงานได้รับแจ้งจาก บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น ได้ประสานนำเงินค่าธรรมเนียมใบอนูญาต 900 MHz มาชำระแล้ว โดยกสทช.ได้แจ้งยืนยันแล้วว่าให้นำมาชำระช้าที่สุดภายในวันที่ 27 มิ.ย.59 เนื่องจากกระบวนการในการออกใบอนุญาตจะต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน ในการเรียกประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และส่งรายละเอียดให้ประธาน กสทช.ลงนามใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งกระบวนการจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.59 และจะมีผลใบอนุญาตในวันที่ 1 ก.ค.59 ทั้งนี้เพื่อให้คลื่น 900 MHz ของเอดับบลิวเอ็นได้งานได้ต่อเนื่อง ผู้บริหารได้รับจะดำเนินการในส่วนนี้
นายฐากร กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการโทรคมนาคมเตรียมเรียกผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 ราย ได้แก่ AIS, DTAC, TRUE MOVE, CAT และ TOT เข้าหารือหลังพบปัญหาการร้องเรียนสายหลุดยังไม่ได้รับการแก้ไขในหลายพื้นที่ โดยจากข้อมูลการร้องเรียนเรื่องคุณภาพการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กรณีสายหลุดที่ประชาชนแจ้งเข้ามายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักงาน กสทช. ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 1200 ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.58 ถึงวันที่ 10 มิ.ย.59 มียอดร้องเรียนรวม 1,916 เรื่อง แบ่งเป็น เครือข่าย AIS 994 เรื่อง เครือข่าย DTAC 497 เรื่อง เครือข่าย TRUE MOVE 238 เรื่อง เครือข่าย CAT 32 เรื่อง และเครือข่าย TOT 5 เรื่อง โดยพื้นที่ร้องเรียนที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเป็นพื้นที่เดิมที่เคยมีการร้องเรียนมาแล้ว เช่น กรุงเทพมหานคร ในเขตคลองเตย จตุจักร มีนบุรี วัฒนา ลาดกระบัง บางขุนเทียน บางเขน บึงกุ่ม และยานนาวา ต่างจังหวัด เช่น กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น จันทบุรี และฉะเชิงเทรา ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ส่งข้อมูลเรื่องการร้องเรียนทั้งหมดให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้เร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วน และสำนักงานจะได้ส่งรถตรวจสอบคุณภาพสัญญาณออกตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบการว่าได้มีการแก้ไขปัญหาแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ เสียงที่ประชาชนร้องเรียนและแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาสายหลุดมายังสำนักงาน ทำให้สำนักงานสามารถทราบจุดพื้นที่ที่มีปัญหาเพื่อทำการแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี