นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เปิดเผยว่า กรณีที่สภาเกษตกรแห่งชาติได้ออกมายื่นหลังสือเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาระงับการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยเฉพาะข้าวสาลี และกากข้าวโพดเอทานอล (DDGS) เนื่องจากส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบในประเทศนั้น หากดูสถิติย้อนหลัง 10 ปีจะพบว่าความต้องการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์มีการขยายตัวต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมอาหารของไทยเฉลี่ยปีละ 7.2 ล้านตัน
โดยในปี 2559 นี้คาดว่าจะมีความต้องการใช้อาหารสัตว์ถึง 18.63 ล้านตัน สวนทางกับการผลิตวัตถุดิบหลักที่ขยายตัวไม่ทันต่อความต้องการใช้
โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลิตภัณฑ์ข้าว มันสำปะหลังและข้าวสาลี มีสัดส่วนการใช้ 55-60% ของการผลิตอาหารสัตว์ที่สามารถผลิตได้เพียง 4.5-4.6 ล้านตันต่อปียังขาดอีก 3 ล้านตัน เพราะความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อยู่ที่ 7.8-7.9 ล้านตันต่อปี แต่การผลิตขยายตัวเฉลี่ยเพียง 1% ต่อปี ทำให้มีความจำเป็นต้องนำเข้าข้าวสาลี และ DDGS เพื่อมาทดแทนผลผลิตข้าวโพดในประเทศ
ส่วนการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรก็ดำเนินการตามฤดูกาลผลิต และอาจจะมีการหยุดรับซื้อในบางช่วงเวลาเช่น ช่วงปรับปรุงเครื่องจักร และเคลีย์สต๊อกสินค้า แต่ในภาพรวมไม่มีผลให้ราคาตกต่ำ โดยยังคงยึดตามนโยบายพยุงราคาของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งราคารับซื้อ 3 ปีย้อนหลังปรับขึ้นทุกปี ทั้งนี้ในปี 2558 อยู่ที่ 9.45 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) สูงกว่าราคาปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 9.32 บาทต่อกก. และปี 2556 อยู่ที่ 9.10 บาทต่อกก.
นายพรศิลป์กล่าวว่า สมาพันธ์ที่ประกอบด้วย11 สมาคมผู้ประกอบธุรกิจด้านปศุสัตว์ เตรียมยื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อรัฐบาลภายในสัปดาห์หนี้ เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะยาว 2 ด้าน คือ การเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพด และการจัดหาเมล็ดพันธุ์ให้เพียงพอกับพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี