“คลัง” หยุดเจรจาเช่าที่มักกะสันกับการรถไฟฯ รอส่งกฤษฎีกาตีความกฎหมายเวนคืนที่ดินก่อนทำได้หรือไม่ ขณะที่โครงการบ้านธนารักษ์ พบยอดคนผ่านเกณฑ์บ้านธนารักษ์ไม่ถึงครึ่ง เตรียมปรับเงื่อนไขใหม่ก่อนเปิดเฟส 2 สิ้นปีนี้
นายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เสนอนำที่ดินมักกะสันมาแลกหนี้กับกระทรวงการคลัง ล่าสุด ขณะนี้ได้ทำการหยุดพักการพิจารณาในส่วนดังกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากต้องรอ ร.ฟ.ท.ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความกฎหมายการเวนคืนที่ดินว่าสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง หลังจากครม.มีมติเห็นชอบแก้ไขกฎหมายการเวนคืนที่ดินให้ครอบคลุมการเวนคืนก่อนปี 2521 และหลังปี 2521 จากนั้น ร.ฟ.ท.จึงจะส่งกลับเข้ามาพิจารณาใหม่ หลังจากมีความชัดเจนแล้ว
“ตอนนี้ต้องจบไปก่อนในที่มักกะสันรอความชัดเจนการเวนคืนที่ดินจากร.ฟ.ท. ถ้ากฤษฎีกาตีความว่าใช้ได้ก็สามารถมาดำเนินการต่อ โดยระหว่างนี้กรมก็จะศึกษาไปเรื่อยๆ ในการจะนำที่มาบริหารจัดการ” นายจักรกฤศฎิ์ กล่าว
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินย่านมักกะสันหรือที่เรียกกันว่า “มักกะสัน คอมเพล็กซ์” มีทำเลอยู่กลางเมือง
และเป็นจุดเชื่อมระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับศูนย์กลางเมืองธุรกิจ (แอร์พอร์ต ลิ้งค์) ตามแผนเดิมจะมีการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ โครงการศูนย์จัดแสดงสินค้า โครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ และโครงการอาคารสำนักงานให้เช่าโรงแรม ฯลฯ สำหรับที่ของ ร.ฟ.ท. จะส่งมอบทั้งหมด 497 ล้านไร่ แลกกับกระทรวงการคลังเคลียร์หนี้ให้ ร.ฟ.ท. 6.1 หมื่นล้านบาท
นายจักรกฤศฎิ์กล่าวถึง โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ว่ากรมได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้ามาลงทะเบียนในโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐทั้ง 4 แปลงแล้ว พบว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้เข้ามาลงทะเบียนทั้งหมด 2,302 ราย สูงเกือบ 200% จากจำนวนยูนิตทั้ง 4 แปลง รวม 1,442 ยูนิต เนื่องจากผู้เข้าลงทะเบียนจองสิทธิ์โครงการที่อำเภอหัวหิน จ.เพชรบุรี ทั้ง 2 แปลง ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ไม่ตรงตามเกณฑ์บ้านหลังแรก หรือมีบ้านอยู่แล้ว
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนอีก 2 แปลงคือพื้นที่โครงการใน กทม. ซึ่งเปิดให้ข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐอยู่อาศัย ในส่วนนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด” นายจักรกฤศฎิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรมจะนำปัญหาดังกล่าวมาพิจารณาหลักเกณฑ์การจองสิทธิ์ในโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐระยะที่ 2 (เฟส 2) โดยคาดว่าจะใช้เงื่อนไขให้เป็นบุคคลที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งตามหลักจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี มองว่าอาจจะตรงตามเป้าหมายของโครงการนี้มากกว่า แต่ก็ยังไม่ตัดเงื่อนไขต้องเป็นบ้านหลังแรกออกไปในการพิจารณาเงื่อนไขใหม่
สำหรับโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเฟส 2 กรมได้สำรวจที่ดินราชพัสดุเพิ่มเติมที่จะมาดำเนินโครงการในปี 2560 จำนวน 4 แปลง ประกอบด้วย เลขทะเบียน กท.2918 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา จ.กรุงเทพฯ เนื้อที่ 2 ไร่, ปท.666 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 7 ไร่, ฉช.679 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่ 44 ไร่ และ สฎ.520 ต.หัวเตย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ โดยคาดว่าหลังจากสำรวจและทำประชาพิจารณ์ผ่านแล้วจะสามารถเปิดให้เอกชนประมูลได้ช่วงสิ้นปีนี้
ขณะที่แปลง อ.ช้างคลาน จ.เชียงใหม่ ที่ได้ประกาศยุติไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่หารือกับชุมชนแล้วก็จะให้นำมาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ แต่ชุมชนต้องเสนอแผนงานโครงการว่าจะนำมาพัฒนาในลักษณะไหน ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบแนวทางประชารัฐ โดยกรมได้จัดสรรที่ราชพัสดุจำนวน 2 แปลง เพื่อมาทดแทนที่อ.ช้างคลาน คือ แปลงหมายเลขทะเบียน ชม.1723 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีเนื้อที่ 15 ไร่ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกองทัพบก (ค่ายตากสิน) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างติดต่อประสานเพื่อขอแบ่งพื้นที่ในบางส่วนนำมาทำโครงการ คาดว่าจะเปิดให้ทั้งประชาชน และข้าราชการทหารเป็นที่อยู่อาศัย
ส่วนอีกแปลงคือ หมายเลขทะเบียน ชม.1745 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนสหกรณ์การเกษตรภาคเหนือโดยจะนำพื้นที่บางส่วนประมาณ 14 ไร่ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาพัฒนาโครงการ จากพื้นที่ทั้งหมด 65 ไร่ โดยคาดว่าทั้ง 2 แปลงใหม่นี้จะสรุปและเปิดประมูลได้ไม่เกินกลางปี 2560
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี