สุดยื้อพิษเศรษฐกิจ
ปิด“ปาร์คนายเลิศ”
ขายทิ้ง“หมื่นล้าน”
รพ.กรุงเทพช้อนซื้อ
“ปาร์คนายเลิศ” โรงแรมหรูแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ มีอันต้องปิดตัวลงแล้วโดยข่าวดังกล่าวเป็นที่ฮือฮามาก หลังจากในช่วงค่ำวันที่ 28 กันยายน ในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของ น.ส.ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร หรือ น้องเล็ก หลานสาวของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัทโรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด โดยมีใจความว่า เล็ก ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และลูกหลานของปาร์คนายเลิศ ขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ ผู้บริหารและครอบครัว แจ้งข่าวสำคัญให้พนักงานทุกคนทราบ
หลายๆ คนทำงานที่นี่ ตั้งแต่วันแรกที่โรงแรมเปิดได้มีโอกาสรู้จักกับ ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ หลายๆ คนทำงานในช่วงเวลาที่ คุณพิไลพรรณ สมบัติศิริ เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือบางคนเพิ่งจะเข้ามาทำงานในช่วงหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นเวลาช่วงไหนก็ตาม ตลอด 36 ปี ของโรงแรม พวกเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกันทั้งเรื่องทุกข์และสุข เรื่องง่ายและยาก เราก็สามารถผ่านมาด้วยกันแล้วทุกครั้ง
แต่ทุกวันนี้ สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมมีการแข่งขันสูง มีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมาทุกที่ของมุมถนน คณะผู้บริหารทุกคนอดทนและทำงานหนัก เพื่อประคับประคองสถานการณ์ เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมมาตลอด แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงต้องแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบว่า มีความจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการของโรงแรมอย่างเป็นทางการต้นปี 2560 ซึ่งผู้บริหารจะรับผิดชอบชดเชยตามอัตราที่กฎหมายกำหนดพร้อมโบนัสอีก 1 เดือน สำหรับพนักงานที่มีสิทธิได้รับโบนัสตามกฎของบริษัท และสินน้ำใจจากครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากบริษัท ACCOR พันธมิตรที่จะรับพิจารณาพนักงานที่สนใจทำงานต่อไป ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดเป็นระยะๆ กับฝ่ายบุคคล จึงขอความร่วมมือพนักงานทุกคนให้ช่วยกันทำงานในหน้าที่จนวันสุดท้าย ขอขอบคุณพนักงานทุกคนจากใจ ที่ทุ่มเท ทั้งแรงกายและแรงใจมาโดยตลอด ถ้าไม่มีพนักงานทุกคนโรงแรมคงไม่สามารถยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และขอฝากปาร์คนายเลิศให้อยู่ในหัวใจและความทรงจำที่ดีของทุกคนตลอดไป
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด (มหาชน) หรือ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เข้าซื้อที่ดินบริเวณโรงแรมปาร์คนายเลิศ พื้นที่กว่า 15 ไร่พร้อมสิ่งปลูกสร้าง พร้อมอนุมัติให้บริษัทย่อย บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก(BDMS Wellness Clinic) พัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพครบวงจร โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทได้เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว และคาดว่าจะรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวประมาณไตรมาส 2/60 มูลค่าประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท โดยได้ชำระเงินมัดจำแล้วจำนวน 1.08 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือจะชำระในวันรับโอนกรรมสิทธิ์ประมาณไตรมาส 2/60 ซึ่งบริษัทกำหนดงบประมาณลงทุนและปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ประมาณ 2 พันล้านบาท รวมเป็นมูลค่าลงทุนครั้งนี้ประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท
ด้าน น.ส.พรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการดูแลพนักงานของโรงแรมปาร์คนายเลิศว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 4 เข้าไปตรวจสอบแล้ว ทราบว่ามีพนักงานมากกว่า 388 คน สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ หลังปิดกิจการ พนักงานเหล่านี้จะทำอย่างไร โดยพนักงานส่วนใหญ่มีอายุงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จึงเตรียมประสานกรมการจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มาช่วยหางานใหม่ หรือพัฒนาทักษะหากต้องการเปลี่ยนสายงาน และกำชับเจ้าหน้าที่ว่าหากพนักงานต้องการความช่วยเหลือให้เร่งดำเนินการทันทีรูดม่านโรงแรมหรู
ปิด‘ปาร์คนายเลิศ’
อ่วมพิษเศรษฐกิจ
รพ.กรุงเทพช้อนซื้อ
“ปาร์คนายเลิศ” โรงแรมหรูแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ มีอันต้องปิดตัวลงแล้วโดยข่าวดังกล่าวเป็นที่ฮือฮามาก หลังจากในช่วงค่ำวันที่ 28 กันยายน ในสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของ น.ส.ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร หรือ น้องเล็ก หลานสาวของท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ประธานกิตติมศักดิ์ บริษัทโรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด และเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทโรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด โดยมีใจความว่า เล็ก ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และลูกหลานของปาร์คนายเลิศ ขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ ผู้บริหารและครอบครัว แจ้งข่าวสำคัญให้พนักงานทุกคนทราบ
หลายๆ คนทำงานที่นี่ ตั้งแต่วันแรกที่โรงแรมเปิดได้มีโอกาสรู้จักกับ ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมแห่งนี้ หลายๆ คนทำงานในช่วงเวลาที่ คุณพิไลพรรณ สมบัติศิริ เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือบางคนเพิ่งจะเข้ามาทำงานในช่วงหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นเวลาช่วงไหนก็ตาม ตลอด 36 ปี ของโรงแรม พวกเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกันทั้งเรื่องทุกข์และสุข เรื่องง่ายและยาก เราก็สามารถผ่านมาด้วยกันแล้วทุกครั้ง
แต่ทุกวันนี้ สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมมีการแข่งขันสูง มีโรงแรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมาทุกที่ของมุมถนน คณะผู้บริหารทุกคนอดทนและทำงานหนัก เพื่อประคับประคองสถานการณ์ เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมมาตลอด แต่สุดท้ายทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงต้องแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบว่า มีความจำเป็นต้องหยุดดำเนินกิจการของโรงแรมอย่างเป็นทางการต้นปี 2560 ซึ่งผู้บริหารจะรับผิดชอบชดเชยตามอัตราที่กฎหมายกำหนดพร้อมโบนัสอีก 1 เดือน สำหรับพนักงานที่มีสิทธิได้รับโบนัสตามกฎของบริษัท และสินน้ำใจจากครอบครัวอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากบริษัท ACCOR พันธมิตรที่จะรับพิจารณาพนักงานที่สนใจทำงานต่อไป ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดเป็นระยะๆ กับฝ่ายบุคคล จึงขอความร่วมมือพนักงานทุกคนให้ช่วยกันทำงานในหน้าที่จนวันสุดท้าย ขอขอบคุณพนักงานทุกคนจากใจ ที่ทุ่มเท ทั้งแรงกายและแรงใจมาโดยตลอด ถ้าไม่มีพนักงานทุกคนโรงแรมคงไม่สามารถยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และขอฝากปาร์คนายเลิศให้อยู่ในหัวใจและความทรงจำที่ดีของทุกคนตลอดไป
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการจำกัด (มหาชน) หรือ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เข้าซื้อที่ดินบริเวณโรงแรมปาร์คนายเลิศ พื้นที่กว่า 15 ไร่พร้อมสิ่งปลูกสร้าง พร้อมอนุมัติให้บริษัทย่อย บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก(BDMS Wellness Clinic) พัฒนาเป็นโครงการศูนย์สุขภาพครบวงจร โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า บริษัทได้เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว และคาดว่าจะรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวประมาณไตรมาส 2/60 มูลค่าประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท โดยได้ชำระเงินมัดจำแล้วจำนวน 1.08 พันล้านบาท และส่วนที่เหลือจะชำระในวันรับโอนกรรมสิทธิ์ประมาณไตรมาส 2/60 ซึ่งบริษัทกำหนดงบประมาณลงทุนและปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ประมาณ 2 พันล้านบาท รวมเป็นมูลค่าลงทุนครั้งนี้ประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท
ด้าน น.ส.พรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการดูแลพนักงานของโรงแรมปาร์คนายเลิศว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเขตพื้นที่ 4 เข้าไปตรวจสอบแล้ว ทราบว่ามีพนักงานมากกว่า 388 คน สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ หลังปิดกิจการ พนักงานเหล่านี้จะทำอย่างไร โดยพนักงานส่วนใหญ่มีอายุงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จึงเตรียมประสานกรมการจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มาช่วยหางานใหม่ หรือพัฒนาทักษะหากต้องการเปลี่ยนสายงาน และกำชับเจ้าหน้าที่ว่าหากพนักงานต้องการความช่วยเหลือให้เร่งดำเนินการทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี