นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ว่า ได้นำเสนอให้ขอความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวของ เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) กระทรวงการคลัง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นต้น เกี่ยวกับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งเป็นโครงการต่อขยาย
สำหรับโครงการดังกล่าวประกอบด้วย ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช, ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา มูลค่า 19,000 ล้านบาท และช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มูลค่า 7,500 ล้านบาท โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องการเห็นภาพรวมในการดำเนินการทั้งหมดของโครงการว่าหากมีการมีการต่อขยายแล้วจะมีรูปแบบของการเดินรถเป็นอย่างไร และขอให้ปรับข้อมูลที่นำเสนอให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งได้มีการขอให้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ไปจัดทำรายละเอียดภาพรวมของการบริหารและโครงข่ายของโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเดิม
ขณะที่ สศช.เห็นว่าควรสนอเป็นภาพรวมโครงการจึงได้มีการมอบหมายให้ร.ฟ.ท.ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมโดยให้เวลาในการดำเนินการ 2 สัปดาห์และจะมีการหารืออีกครั้ง ซึ่งในการดำเนินการดังกล่าวเป็นการเตรียมพร้อมข้อมูลเพื่อให้มีข้อมูลสมบูรณ์ที่สุดก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุมสศช.ในเดือนกุมภาพันธ์ และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาเห็นชอบต่อไป เพื่อดำเนินการเชิญชวนเอกชนซื้อซองประกวดราคาและเปิดประมูลโครงการในช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2561 สำหรับรูปแบบการลงทุนโครงการนี้จะเป็นแบบรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อสร้าง ส่วนด้านระบบเดินรถจะให้เป็นหน้าที่ของบริษัทลูกด้านการเดินรถที่ขณะการรถไฟฯอยู่ระหว่างดำเนินการจัดตั้ง
ด้านแหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท. กล่าวว่าในการจัดตั้งบริษัทลูกด้านเดินรถนั้นการดำเนินการยังติดปัญหาหลายด้านจนเกิดความล่าช้ากว่าแผน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อจ้างสถาบันเข้ามาทำการศึกษาแนวทางการก่อตั้งบริษัทลูก ซึ่งจะว่าจ้างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้ามาดำเนินการ ก่อนเสนอผลการศึกษาเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ การรถไฟฯและเสนอต่อ ครม.เพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ในเบื้องต้นไม่มั่นใจว่า บริษัทลูกด้านเดินรถจะสามารถก่อตั้งได้ทันภายในปีนี้หรือไม่ แต่จะดำเนินการก่อนรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต จะให้บริการในปี 2563