20 ม.ค.61 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(คนร.) เปิดเผยว่า ทาง คนร.มีมติให้กระทรวงคมนาคมกลับไปพิจารณาทำแผนระยะยาวในการฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทการบินไทยใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องค่าโดยสาร ขสมก.และการรถไฟฯที่จะต้องมีการทบทวนให้สอดคล้องกับแผนระยะยาว ในส่วนของความคืบหน้าของการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน โดยต้องกำหนดแนวทางการบริการให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูปเส้นทางเพื่อให้เชื่อมกับระบบขนส่งอื่นๆได้ และควรมีการติดตั้งระบบได้อย่างเป็นธรรม และเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการเช่นกันคือ การจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต และบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สิน ส่วนรถไฟทางคู่ทั้ง 5 เส้นที่ได้มีการลงนามเมื่อช่วงที่ผ่านมาก็คาดว่าจะก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จในปี 2563
ขณะที่การบินไทยแม้อัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่รายได้ยังไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากการแข่งขันที่สูง จึงให้เร่งนำระบบ Revanue Management System และระบบ Network Management System มาใช้ให้เป็นรูปธรรม เพื่อมาช่วยในการบริหารจัดการรายได้ และควบคุมค่าใช้จ่าย พร้อมให้กระทรวงคมนาคมกลับไปทำแผนระยะยาวให้สอดคล้องกับการแข่งขันด้านการบินของตลาด โดยมีสายการบินไทยสไมล์รวมอยู่ในแผนด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและพัฒนาระบบธรรมาภิบาลในรัฐวิสาหกิจเพื่อยกระดับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ โดยมีนายรพี สุจริตกุล กรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเป็นประธาน ซึ่งคณะอนุกรรมการดังกล่าวจะคอยตรวจสอบปัญหาและอุปสรรคของรัฐวิสาหกิจ รวมถึงเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับระบบการกำกับดูแล
ด้านนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่าในที่ประชุม คนร. ได้รับทราบรายงานแผนฟื้นฟูกิจการของการรถไฟฯ โดยนายประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมได้มีความมีความเห็นว่าให้ดำเนินการไปตามแผนดังกล่าว โดยแผนฟื้นฟูกิจการนั้นมีแผนลงทุนพัฒนาระบบราง แผนลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้เป็นต้น โดยแผนการเพิ่มรายได้นั้นขณะนี้ได้ส่งผลการศึกษาและแนวทางการจัดตั้งบริษัทลูกด้านบริหารทรัพย์สินไปยัง สคร. เรียบร้อยแล้ว หากไม่ติดปัญหาน่าจะผ่านมติเห็นชอบพร้อมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพิจารณาได้ภายในเดือน มี.ค.นี้ หากอนุมัติจะเดินหน้าจดทะเบียนตั้งบริษัททันที วงเงินจดทะเบียน 300 ล้านบาท พร้อมกับการจัดทำโครงสร้างองค์กรและสรรหาบุคลากรเพื่อโอนงานบางส่วนให้บริษัทลูกช่วงปลายปีก่อนเริ่มทยอยนำที่ดินของการรถไฟฯไปพัฒนาเปิดประมูลและสร้างรายได้ในต้นปี 2562 และทางการรถไฟฯได้รายงานการเปรียบเทียบค่าโดยสารระหว่างรถไฟ รถไฟฟ้าและเรือด่วนเพื่อให้เห็นความแตกต่างของโครงสร้างราคาเพราะรถไฟไม่ได้ปรับราคามา 30 ปีแล้ว
สำหรับความคืบหน้าโครงการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาด 16 ตันเพลา จำนวน 100 คัน มูลค่า 1.95 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหาด้วยวิธีซื้อ 50 คัน วงเงิน 6.5 พันล้านบาท โดยจะเปิดให้เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ และจัดหาด้วยวิธีเช่าอีก 50 คัน วงเงินประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนนั้นได้เสนอรายงานบอร์ดเพื่อทราบในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะเร่งเปิดประมูลและลงนามสัญญาเอกชนภายในปีนี้เพื่อรองรับรถไฟทางคู่ ส่วนด้านเอกสารประกวดราคา(TOR) จะแล้วเสร็จเพื่อเสนอบอร์ดในช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ เพื่อเปิดประมูลโครงการต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี