นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติมาตรการหักลดหย่อนภาษีสำหรับการประกันสุขภาพเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทำประกันสุขภาพจากบริษัทประกันภัยมากขึ้น โดยให้ผู้เอาประกันภัยสามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพไปหักเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้นั้น ต่อมากรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 315) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้ สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย สำหรับการประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2560 โดยให้ผู้มีเงินได้สามารถนำเบี้ยประกันสุขภาพมาลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทนั้น
ด้วยปรากฏตามที่มีการเสนอข่าวว่ามีบริษัทประกันภัยบางบริษัทกล่าวอ้างกับผู้เอาประกันภัยว่า การขอหนังสือรับรองการชำระเบี้ยสุขภาพต้องขออนุมัติจากสำนักงาน คปภ. ก่อน เพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์การลดหย่อนภาษีดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้สำนักงาน คปภ. ขอย้ำว่า ไม่เป็นความจริง จึงขอชี้แจงว่า ผู้มีเงินได้ที่จะยื่นยกเว้นภาษีตามเงื่อนไขดังกล่าวให้ใช้เอกสารหลักฐาน ดังนี้ กรณีปีภาษี 2560 ผู้มีเงินได้สามารถใช้ใบเสร็จรับเงินหรือหนังสือรับรองจากบริษัทเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษี
สำหรับในส่วนของปีภาษี 2561 เป็นต้นไป ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้สำหรับเบี้ยประกันสุขภาพให้บริษัททราบ เพื่อให้บริษัทสามารถนำส่งข้อมูลเบี้ยประกันสุขภาพให้แก่กรมสรรพากร โดยผู้มีเงินได้ไม่ต้องใช้หลักฐานประกอบการยื่นขอลดหย่อนภาษี เพียงแต่แจ้งความประสงค์การนำเบี้ยประกันสุขภาพไปลดหย่อนภาษีตามแบบฟอร์มที่ได้รับจากบริษัท ก็สามารถดำเนินการยื่นภาษีได้เลย ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี