ดีอีเทเน็ต1.5หมื่นหมู่บ้านให้กสทช.ดำเนินการ อ้างทำไม่ทันตามทีโออาร์ ด้าน กสทช.เร่งเครื่องเน็ตชายขอบ นำร่องต้นแบบเชียงใหม่- กาญจนบุรี
25 ม.ค.61 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กสทช.จะมีการประกวดราคาโครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานในพื้นที่ชนบท จำนวน 15,732 หมู่บ้าน หลังจาก กสทช.ได้ส่งเรื่องไปให้กับสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อที่จะส่งมอบต่อให้กับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ซึ่ง กสทช.จะโอนเงินไว้ให้แก่กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) เพื่อดำเนินการ
อย่างไรก็ตามขณะนี้กองทุนดีอีได้ตอบหนังสือกลับมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขอให้ กสทช.ดำเนินการในส่วนนี้ เนื่องจากหากให้กองทุนดีอีดำเนินการจะติดขัดด้วยกระบวนการในการดำเนินการ ทำให้ล่าช้า ส่งผลให้การเปิดให้บริการไม่ทันภายในสิ้นปี 2561
สำหรับรูปแบบที่ กสทช.จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.มีด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.ดำเนินการในรูปแบบที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือ TOT ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมี Wi-Fi ประจำหมู่บ้าน ระยะเวลาในการสนับสนุน 1 ปี ใช้กรอบวงเงิน 3,287 ล้านบาท 2.ดำเนินการในลักษณะเดียวกับรูปแบบที่ 1 ระยะเวลาในการสนับสนุน 5 ปี ใช้กรอบวงเงิน 6,840 ล้านบาท
3.ดำเนินการในแนวทางเน็ตประชารัฐ หรือในพื้นที่ชายขอบ ใช้กรอบวงเงินประมาณ 18,000 ล้านบาท พร้อมกับมีศูนย์อินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USONET) จำนวน 228 แห่ง ห้องบริการอินเทอร์เน็ตประจำโรงเรียน พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1,623 แห่ง โรงเรียนที่มีลาสต์ไมล์เข้าถึงอีก 3,170 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) อีก 91 แห่ง ซึ่งจะใช้บริการฟรีทั้งหมดตลอดระยะเวลา 5 ปี
“รูปแบบในการดำเนินการโครงการดังกล่าวขึ้นอยู่กับบอร์ด กสทช.แต่รูปแบบที่ผมคิดอยู่คือรูปแบบที่ 2 ระยะเวลาสนับสนุน 5 ปี เพราะมองว่าระยะเวลาสนับสนุน 1 ปี มันสั้นเกินไปในการที่จะเปิดให้บริการ ทั้งนี้เงินที่ใช้ในการดำเนินการมาเป็นเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (USO) ทั้งหมด สำหรับทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของ กสทช. และ กสทช.ก็จะส่งมอบให้กับหน่วยงานที่จะเปิดให้บริการในอนาคตต่อไป” นายฐากร กล่าว
นายฐากร กล่าวว่า จะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคมภายในสัปดาห์หน้า และเข้าบอร์ด กสทช.ในวันที่ 7 ก.พ.2561 ต่อไป จากนั้นหลังจากบอรืด กสทช.มีมติออกมา คาดว่าจะออกประกาศประกวดราคาได้ไม่เกินวันที่ 15 ก.พ.2561 และหากสามารถลงนามในสัญญาได้ภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย.2561 มั่นใจใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 3-4 เดือน ก็สามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน ต.ค.-พ.ย.2561 ครบทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ชนบทมีจุดเชื่อต่อ Wi-Fi มีความพร้อมมากกว่าพื้นที่ชายขอบ
ขณะเดียวกันเมื่อวันนี้ (25 ม.ค. 2561) สำนักงาน กสทช. นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจความพร้อมและทดสอบระบบการเรียนการสอนทางไกล ระบบการรักษาผู้ป่วยทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ณ ศูนย์ยูโซ่ เน็ต (USO NET) โรงเรียนบ้านน้ำโจน จ.กาญจนบุรี โดยจะมีการทดลองส่งการสอนทางไกลผ่านระบบ Video Conference ระหว่างครู นักเรียน โรงเรียนบ้านน้ำโจน ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี กับครู นักเรียน โรงเรียนบ้านป่าลาน ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ และมีการทดสอบระบบการรักษาผู้ป่วยทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
นายฐากร กล่าวว่า ศูนย์ยูโซ่ เน็ต (USO NET) โรงเรียนบ้านน้ำโจน จ.กาญจนบุรีเป็นหนึ่งในเป้าหมายการดำเนินงานตามโครงการเน็ตชายขอบ 3,920 หมู่บ้านของสำนักงาน กสทช. โดยขณะนี้ติดตั้งไปแล้วกว่า 15% หรือ 500 หมู่บ้านโดยเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จครบ 100% ภายในเดือน ส.ค. 2561 ภายในหมู่บ้านพื้นที่โครงการจะมีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่ต่ำกว่า 30 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) และบริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมการบำรุงรักษาฟรี มีอาคารศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตสาธารณะ (USO NET) 763 ศูนย์ พร้อมผู้ดูแลประจำศูนย์อย่างน้อย 1 คน ให้บริการฟรี ตลอดระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไม่ต่ำกว่า 30 Mbps ให้แก่หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่โครงการ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล รวม 1,317 แห่ง รวมถึงมีจุดเชื่อมต่อไวไฟ(WiFi Access Point ) บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ 3,149 จุด (หมู่บ้านละ 1 จุด) ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่โครงการกว่า 775,027 ครัวเรือน สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ มีโอกาสริเริ่มทำธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆ ที่จะทำให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
“การจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและบริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชายขอบ เป็นการดำเนินการตามนโยบายอินเทอร์เน็ตประชารัฐของรัฐบาล ที่จะช่วยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างคนเมืองกับคนในพื้นที่ชายขอบ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เช่น การรักษาผู้ป่วยทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การสร้างองค์ความรู้ในด้านต่างๆ รวมถึง เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ ซึ่ง สำนักงาน กสทช. จะได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่โครงการมาลงทะเบียนใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแพ็คเกจ 30/10 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) มูลค่า 200 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปี ฟรี ด้วย” นายฐากร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี