นายวิธาน เจริญผล ผู้อำนวยการอาวุโสคลัสเตอร์ธุรกิจบริการ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า นโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ถือเป็นการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยเพื่อดึงดูดการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง
ซึ่ง EIC ประเมินว่าอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติเป็น 3 อุตสาหกรรมที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นในช่วงต้นของการพัฒนาพื้นที่ EEC จากศักยภาพของผู้ประกอบการ ทักษะแรงงาน และอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
EIC ประเมินการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP)ขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4% ต่อปี ส่วนปีนี้คาดว่า GDP จะเติบโต 4% โดยการลงทุนภาครัฐจะเติบโต 8.7% และการลงทุนภาคเอกชนเติบโต 3% ส่วนใหญ่จะได้รับปัจจัยมาจากการลงทุนใน EEC หากภาครัฐดำเนินงานตามแผนการพัฒนาโครงการ EEC สำเร็จจะผลักดันจีดีพีขยายตัวได้มากกว่า 5% ต่อปี
อุตสาหกรรมที่ EIC ประเมินว่าสามารถดึงดูดการลงทุนประกอบด้วย ธุรกิจศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่เน้นรองรับเครื่องบินลำตัวแคบ (narrow body) จะสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย เข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในอนาคต โดยเครื่องบินลำตัวแคบที่สายการบินต้นทุนต่ำเลือกใช้มีสัดส่วนกว่า 70% ของเครื่องบินที่ผ่านเข้า-ออกสนามบินของไทยทั้งหมดและมีปริมาณจะเติบโตอีกกว่า 1.5 เท่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
รวมถึงการพัฒนา ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเพื่อรองรับการท่องเที่ยว จะเป็นแรงผลักดันสำคัญต่อผู้ประกอบการไทยในการซ่อมบำรุงอากาศยาน และการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ในประเภทชิ้นส่วนหลัก (กลุ่ม tier 2) และชิ้นส่วนรอง (กลุ่ม tier 3)ปัจจุบันไทยมีมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนอากาศยานกว่า 50,000 ล้านบาทต่อปี
โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจะสร้างแรงดึงดูดการลงทุนด้าน Internet of Things (IoT) ซึ่งจะสร้างโอกาสต่อผู้ประกอบการในการพัฒนา IoT solution ในอุตสาหกรรมต่างๆ ปัจจุบันการใช้จ่ายด้าน IoT ของไทยยังกระจุกตัวอยู่ที่อุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ ขณะที่ภาคการเกษตรยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีนี้มากนักโดยใช้เพียง 0.1% ส่วนภาคอุตสาหกรรมการผลิตมีการใช้ถึง 76% ของอุปกรณ์ทั้งหมด EIC ประเมินว่าหากมีการใช้ IoT ในการเกษตรเพื่อควบคุมการให้น้ำ การควบคุมโรคและศัตรูพืช การติดตามสภาพดิน จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ได้ถึง 30-50% หากนำไปใช้กับพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าว จะเพิ่มผลผลิตได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยโลกซึ่งอยู่ที่ 480 กิโลกรัมต่อไร่
อุตสาหกรรมการลงทุนในหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในปัจจุบันและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยก้าวเข้าสู่ธุรกิจผู้ให้บริการด้านการรวมระบบ (System Integrator: SI) เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการทดแทนแรงงานและค่าใช้จ่ายในการลงทุน EIC พบว่าการใช้ระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะคุ้มทุนภายใน 6-10 ปี ขณะที่หุ่นยนต์อุตสาหกรรมปัจจุบันมีอายุการใช้งานสูงสุด 12 ปี ซึ่งจะสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยก้าวเข้าสู่ธุรกิจผู้ให้บริการด้านการรวมระบบซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ออกแบบ และจัดหาระบบอัตโนมัติจากผู้ผลิตหุ่นยนต์และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ มาติดตั้งตามความต้องการของ end users ซึ่งในอนาคตแรงงานกว่า 6.5 แสนคน มีโอกาสที่จะถูกทดแทนหากนำระบบดังกล่าวมาใช้เต็มรูปแบบ แต่ก็จะสร้างงานใหม่ที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเช่นกัน
“อุตสาหกรรมที่จะได้ผลกระทบ เช่นยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม ลักษณะงานที่ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ คือ งานที่ใช้แรงงานเข้มข้น งานที่ซ้ำไป ซ้ำมา และงานที่ต้องการความแม่นยำเป็นพิเศษ แต่ถึงจะส่งผลลบต่อแรงงานสายการผลิต แต่ก็จะส่งผลให้เกิดงานใหม่มากขึ้น เช่น งานออกแบบระบบอัตโนมัติ งานซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ งานเขียนโปรแกรมควบคุมเครื่องจักร เป็นต้น”นายวิธานกล่าว
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการ EEC นอกจากนโยบายที่ชัดเจนและความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและสาธารณูปโภคแล้ว ภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน สร้างแรงงานที่มีทักษะเหมาะสม เตรียมพร้อมด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการเองก็ควรศึกษากฎระเบียบวิธีปฏิบัติในการลงทุนข้อกำหนดต่างๆ และสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับจากการเข้าไปลงทุนในพื้นที่ EEC เพื่อนำมากำหนดกลยุทธ์ในการประกอบกิจการต่อไป
“หลังจากร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกผ่านความเห็นชอบสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้งได้สิทธิประโยชน์จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รวมถึง
การอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ แบบ One Stop Service เพื่อร่นระยะเวลาการขออนุญาตต่างๆ เชื่อว่าจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้มากขึ้น”นายวิธานกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี