นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2560 ของบ้านปูว่า การเติบโตในธุรกิจของบริษัท อย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมาย ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
สำหรับคือธุรกิจต้นน้ำ ธุรกิจถ่านหินมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องตามราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัท ที่สูงขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้บริษัท สามารถเพิ่มปริมาณสำรองจากเหมืองที่มีอยู่ได้อย่างคุ้มค่า ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติมี การขยายการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาเพิ่มอีก 5 แห่ง ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จึงรับรู้กำไรมากกว่าปีก่อนกว่าเท่าตัว
ขณะที่ธุรกิจกลางน้ำของบริษัท มีการเสริมความแข็งแกร่งด้วยการจัดซื้อน้ำมันดีเซลที่ใช้ในเหมืองของบริษัท ในอินโดนีเซียเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรด้วยต้นทุนที่ต่ำ ลง และจัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งร่วมกับรัฐวิสาหกิจของจีนเพื่อขนส่งถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ผ่านท่าเรือขนาดใหญ่ทางตอนใต้ ของจีน เพื่อจัดจำหน่ายในบริเวณใกล้เคียง
ทางด้านธุรกิจปลายน้ำ ได้แก่ โรงฟ้าฟ้าหงสา และบีแอลซีพี และการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงความคืบหน้าในการต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานครบวงจรภายใต้ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ (BPIN) ผู้ให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แบบครบวงจร โดยในระยะเวลา 2 ไตรมาส สามารถมีกำลังผลิตได้เกือบ 100 เมกะวัตต์ จากเป้าหมาย 300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563
ดังนั้นทำให้ภาพรวมปี 2560 ของบ้านปูสามารถรับรู้กำไรสุทธิรวม 234 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,941 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 187 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,346 ล้านบาท) หรือร้อยละ 398 จากปี 2559 มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) คิดเป็น 968 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 32,852 ล้านบาท) เติบโตจากปีก่อนหน้า 428 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 14,525 ล้านบาท) หรือร้อยละ 79
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2560 จำแนกตามประเภทธุรกิจ ดังนี้ ธุรกิจถ่านหิน รับรู้รายได้จากการขาย 2,624 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 89,053 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ส่วนธุรกิจไฟฟ้า มีรายได้จากการขายรวมจากธุรกิจไฟฟ้า ไอน้ำ และอื่นๆ 216 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,331 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการที่โรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ รับรู้รายได้รวมในปี 2560 คิดเป็น 37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,256 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 22 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 747 ล้านบาท) หรือร้อยละ
147 โดยบริษัทฯ ลงทุนแหล่งก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมเป็นแหล่งที่ 6 ส่งผลให้ บ้านปู เป็นหนึ่งใน 20 บริษัทผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติ รายใหญ่ที่สุดในมลรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี