นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) แถลงผลประกอบการจากการดำเนินงานของการนิคมอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม-ธันวาคม 2560) พบว่ามียอดพื้นที่ขายหรือเช่าจำนวน 737 ไร่ มีเงินลงทุนรวมกว่า 19,744 ล้านบาท เกิดการจ้างงานกว่า 2,368 คน มีการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ 1) กิจการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรม ประกอบด้วยการค้า และโลจิสติกส์ การสร้างโรงงานเพื่อขาย หรือให้เช่า 2) กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 3) อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ 4) อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก 5) อุตสาหกรรมเครื่องจักร
ปัจจุบัน กนอ. มีนิคมอุตสาหกรรม 56 แห่ง ใน 16 จังหวัด มีพื้นที่สำหรับขายและเช่า (รวมพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค) ประมาณ 166,063 ไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค ประมาณ57,650 ไร่ และพื้นที่สำหรับขายและเช่า จำนวน 108,413 ไร่ ณ วันที่ 31 มกราคม 2561 มีพื้นที่ขายและเช่าแล้วจำนวน 87,385 ไร่ ดังนั้นจะคงเหลือพื้นที่สำหรับขายและเช่า อีก 21,028 ไร่ สำหรับมูลค่าการลงทุนสะสมทั้งสิ้น 3.143 ล้านล้านบาท มีผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมากกว่า 4,566 ราย เป็นผลให้เกิดการจ้างงาน 606,552 คน
สำหรับในปีงบประมาณ 2560 ที่ผ่านมามีการ ขายและเช่า พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 3,300 ไร่ คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 8.3 หมื่นล้านบาท และในปีงบประมาณ 2561 คาดว่าจะสามารถ ขายและเช่า พื้นที่ได้ประมาณ 3,500 ไร่ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 9 หมื่นล้านบาท เป็นผลจากนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีความชัดเจนขึ้น หลังจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สนช. ได้ผ่านความเห็นชอบ พ.ร.บ. อีอีซี ซึ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
นอกจากนี้การพัฒนาอุตสาหกรรมในระยะ 5 ปีนับจากปี 2561 กนอ.ได้มุ่งเน้นที่จะสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศ โดยมีแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคตใน 5 กลุ่มที่สำคัญคือ กลุ่มอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ กลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิตอล และกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร
ทั้งนี้ ยังได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับการลงทุนในปีนี้ ได้แก่ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขณะนี้มีการประกาศเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมรวม 21 แห่ง บนพื้นที่ 28,666 ไร่ เงินลงทุนรวม 1.31 ล้านล้านบาท โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ซึ่งเป็น 1 ใน 5 โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในพื้นที่ EEC ที่ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ในภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และเขตจังหวัดอื่นที่มีพื้นที่ต่อเนื่องหรือเกี่ยวข้อง ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาท่าเทียบเรือเพื่อขนถ่ายสินค้าเหลวและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการนำเข้าพลังงาน มีพื้นที่รวมทั้งโครงการ 1,000 ไร่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี