สั่ง‘กสทช.’คืน1,500ล้าน
‘เจ๊ติ๋ม’ยิ้มแป้น
ฟ้องศาลปค.ชนะยกแรก
ได้เงินค้ำประกัน1งวด
เหตุไม่ขยายโครงข่าย
ทำให้ช่อง‘ไทยทีวี’เจ๊ง
กสทช.อุทธรณ์สู้30วัน
“เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” เฮ! ชนะคดีทีวีดิจิทัลยกแรก ศาลปกครองกลางพิพากษา ชี้กสทช.ทำผิดสัญญา สั่งให้คืนแบงก์การันตีกว่า 1,500 ล้าน เล็งอุทธรณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย 700 ล้าน กสทช.เตรียมยื่นอุทธรณ์สู้ใน 30 วัน
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม ศาลปกครองกลาง ได้นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่นางพันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย หรือ’เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล’กรรมการผู้มีอำนาจของ บริษัทไทยทีวีจำกัด ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้การประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลของบริษัทไทยทีวี เป็นโมฆะทั้งหมด และเพิกถอนหนังสือ กสทช.ฉบับ ลงวันที่ 28 พ.ค. 2558 เรื่อง การชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่งวดที่ 2,ฉบับลงวันที่ 5 มิถุนายน 2558 เรื่องการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปีและฉบับลงวันที่ 22 มิถุนายน 2558 เรื่องการขอยกเลิกการเป็นผู้รับอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่ให้ใช้คลื่นความถี่ ของบริษัทไทยทีวีและให้สั่ง กสทช.คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ จำนวน16 ฉบับ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 รวมทั้ง คืนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้ใช้คลื่นความถี่ที่บริษัทได้ชำระไปแล้วเป็นเงิน 365,512,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5 บาทต่อปี นับแต่วันฟ้องจนชำระเสร็จสิ้นและค่าเสียหายจากการกระทำของ กสทช.จำนวน 713,828,282.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5 ต่อปี
โดยศาลปกครองกลาง พิพากษาว่า กสทช.กระทำผิดสัญญาที่ได้ประกาศชี้ชวนไว้กับบริษัทไทยทีวี จำกัดจริง บริษัทไทยทีวี จำกัด จึงมีสิทธิบอกเลิกสัญญา แต่วันบอกเลิกสัญญาพ้นกำหนดกรจ่ายค่าใบอนุญาตงวดที่ 2 ที่บริษัทได้มีการดำเนินการกิจการทีวีดิจิตอลไปแล้ว จึงต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตงวดที่ 2 จำนวน 288,472,000 บาท ส่วนหนังสือค้ำประกันธนาคารกรุงเทพ จำนวน16ฉบับซึ่งเป็นค่างวด ตั้งแต่งวดที่สาม เป็นต้นไปให้ กสทช.คืนให้กับบริษัท แต่ถ้าไม่สามารถคืนไม่ได้ ก็ให้ชดใช้เป็นเงินแทน อย่างไรก็ตามศาลปกครองกลาง ไม่ได้ให้กสทช.ชดใช้ค่าเสียหายตามที่บริษัทเรียกร้อง เพราะภาวะการขาดทุนเกิดจากการดำเนินธุรกิจตามปกติ
ด้าน นางพันธุ์ทิพา หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล’ให้สัมภาษณ์หลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาคดีดังกล่าวว่าพอใจที่ศาลชี้ว่ากสทช.ทำผิดจริง ทำให้คนทั้งประเทศรู้ว่า กสทช.ทำผิด ซึ่งศาลสั่งให้ กสทช.คืนแบงค์การันตี ให้บริษัทไทยทีวี ในงวดที่ 3,4,5 และ6 มูลค่า รวมกว่า1,500 ล้านบาท แต่ศาลไม่ได้ให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน700 ล้านบาทตามที่ขอไป จึงจะยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมในส่วนนี้ โดยจะต้องรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมมั่นใจว่า มีเอกสารที่ชี้ให้เห็นว่า กสทช.ทำผิดสัญญา จนทำให้เกิดความเสียหาย
“เชื่อว่าเราไม่ใช่คนที่ไม่เก่ง ไม่ใช่คนที่อ่อนแอ หรือ ไม่มีสายป่าน ขาดทุนแล้วจึงเลิกแต่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนเก่ง มีความสามารถ เพียงแต่สิ่งที่ กสทช.ทำ ไม่ได้เอื้อและเป็นอุปสรรคจนทำให้เกิดความเสียหาย ประวัติการทำธุรกิจเกือบสี่สิบปี ไม่เคยขาดทุนแม้แต่บาทเดียว ทำไมเรา จึงจะมาโง่วันนี้ กลายเป็นคนมองธุรกิจไม่เป็น อ่อนแอ เป็นเรื่องที่กระทบภาพลักษณ์มาก การสู้วันนี้ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อประชาชนซึ่งตอนนี้ช่องอื่นๆก็ลำบากหมด บางคนครอบครัวแตกแยก ถึงขนาดเกือบฆ่าตัวตาย ล้วนเกิดจากการกระทำของกสทช.ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง แม้ว่า กสทช.ชุดที่อนุมัติเรื่องทีวีดิจิตอลจะพ้นตำแหน่งไปแล้ว แต่ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องรับผลกรรมนั้น” นางพันธุ์ทิพา กล่าว
นายสมบัติ ลีลาพตะ ผู้อำนวยการ(ผอ.)สำนักกฎหมาย กสทช.กล่าวว่า ทางกสทช.จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เนื่องจากเห็นว่า ศาลยังไม่ได้นำข้อเท็จจริงบางส่วนมาประกอบการพิจารณาเช่นรายละเอียดในหนังสือชี้ชวน ที่กำหนดว่าโครงข่ายจะมีการขยายได้ปีละเท่าใดและกรณีที่บริษัทไทยทีวีอ้างว่าโครงข่ายของกรมประชาสัมพันธ์มีปัญหา แต่จริงๆทางไทยทีวีใช้โครงข่ายของผู้ประกอบการรายอื่น
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยภายศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยคำร้องที่บริษัทไทยทีวี ร้องกสทช. ออกคำสั่ง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ว่า สำนักงาน กสทช. ได้รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางแล้ว โดยจะคัดคำพิพากษาศาลฯเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดกสทช.วันที่ 14มีนาคม ส่วนตัวพอใจคำวินิจฉัยศาล สำนักงานฯต้องขอขอบคุณผู้ประกอบการที่หาทางออกให้ผู้ประกอบการทีวีทุกช่อง สำนักงานฯ มองว่าเป็นหลักการที่ดีที่ผู้ประกอบการที่ต้องการจะคืนใบอนุญาตจะได้มีหลักการในการดำเนินการได้ สำหรับการอุทธรณ์คำวินิจฉัยบอร์ด กสทช.จะพิจารณาอีกครั้ง
“เมื่อมีคำพิพากษาออกมาจะทำให้กระบวนการต่างๆ ง่ายขึ้น สิทธิในการที่จะเลิกประกอบการเป็นสิ่งที่ก่อนหน้าที่ไม่มีบรรทัดฐานว่าจะทำได้หรือไม่ ส่วนหากผู้ประกอบการรายอื่นหาจะเลิกการให้บริการโดยยกคำพิพากษาครั้งนี้ก็สามารถทำได้ ยกเว้นว่าถ้ากสทช.ยื่นอุทธรณ์ทั้งหมดทุกประเด็นก็อาจจะต้องรอคำวินิจฉัยในชั้นอุทธรณ์ ส่วนหากใครจะมาร้องว่ากสทช.ไม่ได้ทำตามเงื่อนไขในการประมูล เรื่องนี้ศาลได้มีคำวินิจฉัยแล้วในส่วนความเสียหาย ซึ่งศาลฯ บอกว่า ความเสียหายที่เกิดจากการประอบธุรกิจของตัวเอง จะมาเรียกร้องค่าเสียหายคงไม่ได้ “ นายฐากร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี