ผวาขายชาติอุ้ม‘TRUE-AIS’
คสช.ติดเบรก
‘ทีวีดิจิทัล’กินแห้วด้วย
ยังไม่ออกม.44ช่วยค่าสัมปทาน
นายกฯยืนว่าตามศาลปกครอง
คสช.แตะเบรกออกมาตรา 44 ช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล-มือถือ หลังมีเสียงท้วงติงการขยายเวลาพักหนี้จ่ายค่าใบอนุญาต 3 ปี เกรงเอื้อเอกชนบางราย นายกฯสั่งนำกลับไปพิจารณาใหม่ ให้เวลา 1 อาทิตย์ มอบ “วิษณุ”ทำรายละเอียดชี้แจงทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคสช.อีกครั้งสัปดาห์หน้า
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ให้สัมภาษณ์หลังเข้าชี้แจงที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ว่า คสช.ยังไม่มีมติจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ออกคำสั่งเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตัลในการชำระค่าใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตัล และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตที่ต้องชำระเงินจำนวนสูง งวดสุดท้ายในปี 2562 เนื่องจากมีหลายหน่วยงานส่งข้อสังเกตทักท้วงเข้ามา อาทิ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ทักท้วงว่าไม่ควรขยายเวลาให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคม เพราะอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย
นายฐากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมจึงมอบหมายให้คณะทำงานชุดเล็กของกสทช.ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานดังกล่าว ไปพิจารณาจัดทำเอกสารชี้แจงรายละเอียด และตอบคำถามประชาชนหรือทุกฝ่ายที่มีข้อสงสัย แล้วนำเสนอเรื่องกลับเข้ามาอีกครั้งสัปดาห์หน้า ซึ่งกสทช.จะพยายามชี้แจงให้ข้อมูลที่ดีที่สุด ทั้งนี้ นายวิษณุจะเรียกประชุมคณะทำงานดังกล่าวเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเน้นย้ำว่าขอให้กสทช.ยึดถือประโยชน์ของรัฐและประชาชนให้มากที่สุด ยืนยันว่าไม่ได้ทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เอกชน แต่เป็นเพียงช่วยเหลือขณะที่รัฐยังคงได้ประโยชน์ ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น ขอให้ถามนายวิษณุ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการทบทวนการใช้คำสั่งมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เพราะมีหลายฝ่ายทักท้วง เกรงเอื้อประโยชน์เอกชนมากไปหรือไม่ว่า เรื่องนี้ต้องดูให้รอบคอบ เพราะการประมูลมีการเริ่มต้นมาแล้ว แล้วเหตุใดจึงประมูลสูงถึง 6 เท่า และเหตุใดจึงเกิดการขาดทุน ต้องดูอ่างละเอียดรอบด้าน จึงต้องทบทวนในประเด็นต่างๆเหล่านี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้เวลา 1 สัปดาห์ในการกลับไปพิจารณา ส่วนสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องนี้มาพิจารณาหรือไม่ ต้องดูว่าผู้ที่รับผิดชอบไปดำเนินการเรื่องต่างๆแล้วเสร็จหรือไม่
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวในเรื่องนี้ว่า ต้องหามาตรการที่เหมาะสม ยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งสิ้นว่าจะดูแลอย่างไรในเรื่องเศรษฐกิจด้านนี้ และจะดูแลอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม แต่ทั้งนี้จะยึดถือคำตัดสินของศาลปกครองชั้นต้นมาเป็นบรรทัดฐานว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป
สำหรับแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลดังกล่าวนั้น เป็นข้อสรุปที่คณะทำงานชุดที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯเป็นประธาน ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล และคณะกรรมการกสทช. เมื่อวันที่ 14 มีนาคม และเห็นชอบร่วมกันในมาตรการพักชำระหนี้ระยะเวลา 3 ปี โดยผู้ที่จะยื่นเรื่องพักชำระหนี้ต้องยื่นกับคณะกรรมการ กสทช. ภายใน 30 วัน โดยต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่กสทช.จะสนับสนุนเรื่องโครงข่ายภาคพื้นดินไม่เกินร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 24 เดือน นับตั้งแต่วันที่ คสช.ออกคำสั่งตามมาตรา 44 ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้านโทรคมนาคมในส่วนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่มีปัญหาการชำระเงินประมูลงวดที่ 4 ทั้งค่ายเอไอเอสและทรูมูฟ ที่ประชุมมีมติให้แบ่งชำระเป็นงวด 5 ปีๆละหมื่นกว่าล้านบาท โดยต้องชำระอัตราดอกเบี้ยตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นกัน หลังจากนั้น นายวิษณุได้เสนอเรื่องเข้าครม.และที่ประชุม คสช. เพื่อพิจารณาออกคำสั่งมาตรา 44 ช่วยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี