ทล.เตรียมเสนอ"ครม."ขออนุมัติปรับกรอบวงเงินค่าก่อสร้างและค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน มอเตอร์เวย์สาย"บางใหญ่-กาญจนบุรี"ลง200ล้าน
18 เม.ย.61 นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังการประชุมขออนุมัติปรับกรอบวงเงินโครงทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี ว่า ตามมติที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ทางกระทรวงคมนาคมรับความเห็นของทางสำนักเลขารัฐมนตรีไปพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ 1.ให้ทาง ทล.เร่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในการสำรวจทรัพย์สินในการเวนคืนที่ดินของโครงการฯ และ 2.ในการเสนอขอปรับเพิ่มกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยให้ ทล.ทบทวนผลการศึกษาและเชิญหน่วยงานานที่เกี่ยวข้องร่วมพิจารณาได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาความเหมาะสมและความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการ
ทั้งนี้ ในที่ประชุมทาง ทล.ได้ชี้แจงข้อมูลความเหมาะสมและความคุ้มค่า รวมถึงประโยชน์ในการดำเนินโครงการ ซึ่งยืนยันว่าโครงการดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโครงการต่อไป โดยได้มีการเสนอข้อมูลการทบทวนโครงการใหม่และพยายามลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของโครงการลงและเพิ่มมูลค่าของโครงการให้มากขึ้นเช่น การปรับลดค่าก่อสร้าง ปรับลดค่าเวนคืนที่ดิน รวมถึงแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายด้วยอาทิ จุดเข้า-ออก ทางผ่านมอเตอร์เวย์ ให้มีประสิทธิภาพในการเพิ่มมูลค่าของโครงการให้มากขึ้น สำหรับแนวที่ทาง ทล.มีความเห็นว่าน่าจะมีความเหมาะสมและเป็นไปได้มากที่สุดมี 2 แนวทาง จาก 4 แนวทาง คือ 1) การยืนยันตามแนวทางเดิม ที่มีจุดคุ้มทุน (ERR) ประมาณ 14% และ 2) การปรับลดรูปแบบการก่อสร้างและลดค่ากรรมสิทธิ์ที่ดิน แต่ยังคงเป็นตามแนวเส้นทางเดิม มีจุดคุ้มทุน (ERR) ประมาณ 14% รวมถึงสามารถลดได้ประมาณ 200 ล้านบาท จากเดิมวงเงิน 14,317.51 ล้านบาท เหลือ 14,117.51 ล้านบาท
ในส่วนของแนวทางที่เหลืออีก 2 แนวทางนั้น จะเป็นทางปรับแนวเส้นทางที่ไม่คุ้มทุนเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่าย โดยการปรับลดรูปแบบก่อสร้างโดยการลดขนาดสะพานช่วงออกจากถนนรัตนาธิเบศร์ข้ามมายังถนนกาญจนาภิเษกเข้าสู่บางใหญ่ จากขนาดกว้างของไหล่ทางจาก 2.50 เมตร เหลือ 1.50 เมตร ซึ่งไม่มีผลต่อเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากยังไม่เข้าสู่เขตพื้นที่มอเตอร์เวย์และการปรับลดค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินในช่วงบริเวณเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จะมีการสรุปแนวทางการก่อสร้างและการปรับค่ากรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอ ครม.พิจารณาภายใน 2 เดือน หาก ครม.อนุมัติทาง ทล.ก็จะพยายามเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างให้เร็วที่สุด เนื่องจากขณะนี้โครงการมีความล่าช้ากว่าแผนประมาณ 2 เดือน และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงเดือน ส.ค.2564 โดยในส่วนของความคืบหน้าของดำเนินงานและบำรุงรักษาการ (Operation and Maintenance : O&M) คาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนได้ในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี