ที่กระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรมว.คมนาคม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กรมทางหลวง (ทล.) กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย-มีนบุรี)
รมว.คมนาคม กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้เป็นการอนุญาตให้ผู้ดำเนินโครงการก่อสร้างใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้ง ทล.และ รฟม.ได้มีการหารือร่วมกันในเรื่องของแบบรายละเอียดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวจะไม่รบกวนพื้นที่ทางถนนมากนักเป็นการขอแบ่งพื้นที่ในเขตที่มีอยู่อย่างจำกัด และไม่รบกวนผู้ใช้ทางเท้าด้วย ส่วนปัญหารถติดในกรุงเทพฯยังเป็นปัญหาที่สำคัญจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งโครงการให้เสร็จตรงกำหนด
ขณะที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่าหลังจากการลงนามดังกล่าวการก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 นี้ โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการก่อสร้างประมาณ 39 เดือนนับจากวันที่เข้าพื้นที่ ส่วนขณะนี้การก่อสร้างล่าช้าไปแล้ว 3 เดือน ส่วนแผนการเปิดให้บริการทั้ง 2 สาย จะเปิดพร้อมกันในเดือนตุลาคม 2564
ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าบัตรแมงมุมนั้นก็คาดว่าภายในวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 จะเปิดให้ประชาชนรับบัตรแมงมุมได้ก่อน โดยสามารถใช้บริการโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีน้ำเงินและหลังจากนั้นจะขยายให้บริการที่จะขยายบริการไปยังรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิ้งค์ และ ขสมก. ซึ่งบัตรแมงมุมจำนวน 200,000 ใบ คาดว่าจะเริ่มแจกจ่ายให้แก่ประชาชนสามารถไปขอรับได้ที่ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงทุกสถานีจนกว่าบัตรจะหมดโดยจะมีการกระจายไปให้ครบทุกสถานี โดยมีเงื่อนไขว่าผู้รับบัตรจะได้หนึ่งคนต่อหนึ่งใบ และอาจต้องลงทะเบียนเพื่อไม่ให้เกิดการรับซ้ำซ้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี