นายวิธาน เจริญผล ผู้อำนวยการอาวุโสคลัสเตอร์ธุรกิจบริการ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่าตลาดที่อยู่อาศัยของไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ หลังจากที่ชะลอตัวเนื่องจากหมดมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ โดยประเมินมูลค่ายอดโอนในกรุงเทพฯและปริมณฑลขยายตัว 7% คิดเป็นมูลค่า 460,000 ล้านบาท จากยอดโอนทั้งประเทศประมาณ 900,000 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การขยายตัว ของโครงสร้างพื้นฐาน
แต่ยังมีปัจจัยต้องระวังคือความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงกดดันความสามารถการขอสินเชื่อ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความท้าทายในการเร่งระบายบ้านและคอนโดฯเหลือขาย จำนวน 176,000 หน่วย เป็นคอนโดมิเนียมประมาณ 40% บ้านเดี่ยว 40% และทาวน์เฮ้าส์ 20% ซึ่งผู้ประกอบการต้องเร่งอัดโปรโมชั่น เพื่อระบายสต๊อกให้มากที่สุด พร้อมทั้งต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากที่สุด
จากการศึกษาพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของคนไทย พบว่าแม้คนไทย 87% อยากได้บ้านเดี่ยว แต่คอนโดมิเนียมยังตอบโจทย์เรื่องงบประมาณและไลฟ์สไตล์มากกว่า ดังนั้นคอนโดมิเนียมยังคงเป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน โดยใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที ดังนั้นคอนโดมิเนียมจึงตอบโจทย์เรื่องทำเลและกำลังซื้อ ขณะเดียวกันกลุ่มเจนเอ็กซ์และเบบี้บูมเมอร์ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ซื้อให้บุตรหลาน
ทั้งนี้ประเมินว่าผู้ซื้อที่อยู่อาศัยกว่า 52% วางแผนซื้อที่อยู่อาศัยในราคา 1-3 ล้านบาท โดย 60% ของผู้บริโภคยุคใหม่จะชอบทำเลใกล้ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร เพิ่มเติมจากเดิมที่มองแค่ทำเลใกล้รถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยโครงการที่อยู่ใกล้ศูนย์การค้า ราคาจะเพิ่มขึ้น 15-20% นอกจากนี้ 90% ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะต้องการพื้นที่จอดรถยนต์ส่วนกลาง ลานกิจกรรม พื้นที่ออกกำลังกาย Co-Working Space และกลุ่มคนรุ่นใหม่กว่า 90% ให้ความสำคัญกับระบบเตือนภัยอัจฉริยะระบบควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าและจัดการพลังงาน และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมประกอบการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย
ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรต้องเร่งสร้างความแตกต่างทั้งการออกแบบโครงการที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค เน้นใส่ใจสิ่งแวดล้อม พัฒนาแพลตฟอร์ม Prop Tech เพิ่มช่องทางดิจิทัล สื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลและเปรียบเทียบโครงการได้ง่ายขึ้น พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ และพันธมิตรต่างชาติ เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และสตาร์ทอัพ พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการอยู่อาศัย ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี