นายพิสิฐศักดิ์ รอดนาโพธิ์ หรือ “เฮียอาร์ต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.ที.คาร์เซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัท ได้ประกาศทุ่มงบกว่า 55 ล้านบาท ในการขยายพื้นที่โชว์รูมของ “เอ.ที.คาร์เซลส์” สาขา 2 (สะพานพระนั่งเกล้า) ริมถนนรัตนาธิเบศร์ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ ไปเมื่อปี พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา เพื่อจุดประสงค์ในการก่อสร้างศูนย์บริการมาตรฐาน และยังเป็นการตอกย้ำการเป็นศูนย์รวมการซื้อขายรถมือสองระดับคุณภาพชั้นนำระดับแนวหน้าไปแล้วนั้น

ในปัจจุบันโครงการดังกล่าวถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมากโดยคาดว่าจะเปิดเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้อย่างไรก็ตาม ในโครงการขยายพื้นที่โชว์รูมดังกล่าวนี้ทาง “เอ.ที.คาร์เซลส์”ยังมีความภูมิใจเสนออีกหนึ่งจุดบริการ โดยอีกหนึ่งจุดนี้ถือว่าอยู่ในแผนงานของเราโดยถือเป็นจุดที่ไว้สำหรับรองรับ และตอบแทนลูกค้าซึ่งนั่นก็คือโครงการร้านกาแฟสุดหรูที่เต็มเปี่ยมด้วยความตั้งใจจาก“เอ.ที.คาร์เซลส์”นั่นเอง

โดยร้านกาแฟแห่งนี้นอกจากจะมีบริการกาแฟแล้วยังมีบริการอาหารเลิศรส เครื่องดื่มหลากหลายประเภทรวมทั้งขนม อาหารว่างต่างๆ ด้วยโดยเรามีความตั้งใจเรียกมุมดังกล่าวนี้ว่า AT cafe’ หรือ “เอทีคาเฟ่”

นายพิสิฐศักดิ์กล่าวย้อนถึงแผนการขยายพื้นที่โชว์รูมดังกล่าวว่า อย่างไรก็ตามโครงการขยายพื้นที่โชว์รูมของสาขา 2 นี้ หากเปิดเต็มรูปแบบจะสามารถรับการขยายธุรกิจของเราที่กำลังจะมีการเข้าไปรุกตลาดเพื่อจำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมียม รถยุโรป และรถเกรดA+ เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในการขยายพื้นที่นี้เรายังสอดแทรกรายละเอียดตามมุม หรือจุดบริการต่างๆ ไว้ในแผนงานนี้ด้วย เช่น ศูนย์ออกกำลังกาย หรือฟิสเนส และร้านกาแฟ เป็นต้น

และนี่จึงเป็นที่มาของการเปิดร้านกาแฟ“เอทีคาเฟ่” (AT cafe’) ซึ่งบัดนี้ ร้านกาแฟ “เอทีคาเฟ่”ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว โดยพร้อมเปิดให้บริการทุกท่านแล้วเช่นกัน

“วันนี้เราอยากขอเชิญลูกค้าทุกท่านแวะชม แวะชิม เครื่องดื่มหลากหลายประเภท และอาหารอร่อยๆ จากร้าน“เอทีคาเฟ่” ของเราซึ่งตรงนี้เรามีโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดร้านไว้รองรับลูกค้ามากมายครับ”นายพิสิฐศักดิ์ กล่าว

นายพิสิฐศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับ“เอทีคาเฟ่”จะมีความกว้างของพื้นที่ประมาณ 70 ตารางเมตร โดยรองรับลูกค้าประมาณ 20-25 ท่าน เน้นกลุ่มลูกค้า VIP และกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรถกับ “เอ.ที.คาร์เซลส์” คือ ถ้าใครมาซื้อรถกับเราจะได้ทานอาหารฟรีในวันถอยรถ และหลังจากนั้นจะได้รับบัตรส่วนลด 20% ตลอดไป

ทั้งนี้“เอทีคาเฟ่”จะไม่เน้นเชิงธุรกิจ แต่จะเน้นเรื่องการบริการลูกค้าของเราเป็นหลักแต่หากเป็นลูกค้าภายนอกที่ไม่ได้ซื้อรถกับเราๆ ก็จะมีทางเลือกให้ลูกค้าได้เข้าสู่บริการได้ในรูปแบบสมัครสมาชิกตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทกำหนดซึ่งหากลูกค้าสมัครเป็นสมาชิกก็จะได้รับสิทธิพิเศษตามเงื่อนไขของบริษัทต่อไป

ส่วนลูกค้าทั่วไปที่ไม่ได้เป็นลูกค้า “เอ.ที.คาร์เซลส์” หรือไม่ได้สมัครสมาชิก ก็ยังได้รับสิทธิใช้บริการที่“เอทีคาเฟ่”ได้ในราคาเต็มด้วยเช่นกัน

นายพิสิฐศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับเมนูเด็ดของที่นี่ที่อยากให้ชิมนั่นคือ “สปาเกตตี้เขียวหวานเอที” “ยำเอที” “ไข่เจียวปู” และอาหารเลิศรสอีกมากมายโดยเราได้“เชฟ” หรือ พ่อครัวที่มีฝีมือมาทำการปรุงแต่งทำอาหารซึ่งเราคัดสรรมาอย่างดี เราใส่ใจในเรื่องของคุณภาพ และรสชาติอาหาร คือ ต้องบอกว่า ที่ร้าน“เอทีคาเฟ่”เราไม่ได้มุ่งเน้นทางด้านธุรกิจไม่ได้เน้นขายอาหารแบบปริมาณคนเยอะๆ แต่ร้าน“เอทีคาเฟ่”เราเปิดมาเพื่อบริการลูกค้าของเราเป็นหลัก ดังนั้นเราก็จะบรรจงทำอาหาร และคัด“เชฟ” หรือ พ่อครัวที่มีฝีมือ และคัดวัตถุดิบอย่างดีแน่นอน คือ เราต้องการรองรับลูกค้าที่ชอบบรรยากาศสบายๆ ง่ายๆ และต้องการรับบริการที่ดีนั่นเอง

ส่วนเครื่องดื่มที่ลูกค้านิยมสั่งที่นี่ก็คือ “คาปูชิโน่”อย่างไรก็ตาม กาแฟที่นี่เราคัดเมล็ดกาแฟจากถ้ำสิงห์ชุมพรพันธุ์โรบัสตา ซึ่งเป็นกาแฟคุณภาพชั้นดี ไว้รองรับลูกค้านั่นเอง

คุณพิสัฐศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับงบประมาณในการก่อสร้าง“เอทีคาเฟ่” นั้นเราใช้งบประมาณกว่า 3 ล้านบาท โดยจุดเด่นของ “เอทีคาเฟ่” ยังอยู่ที่ทำเลใกล้รถไฟฟ้าด้วย เราตั้งเป้าให้คนมานั่งในร้านกาแฟประมาณ 20 คน/วัน ซึ่งหากเราทำได้ 1 เดือน เราจะมีลูกค้าประมาณ 600 คน/เดือน และถ้า 1 ปี ก็จะมีลูกค้าประมาณ 7,000 กว่าคน ซึ่งเราเชื่อว่า ในกลุ่มคนจำนวนนี้คงจะมาซื้อขายแลกเปลี่ยนรถกับเราบ้างไม่มากก็น้อย

คุณพิสัฐศักดิ์กล่าวในตอนท้ายว่าเราขอแจ้งข่าวกับลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่า หรือลูกค้าใหม่ หรือบุคคลทั่วไปที่กำลังจับตามองเรา ขณะนี้ “เอ.ที.คาร์เซลส์”กำลังยกระดับการดำเนินกิจการของเราให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราอยากฝากเชิญลูกค้าเข้ามาชมรถ และสัมผัสบริการที่ดีของ“เอ.ที.คาร์เซลส์”

ซึ่งนับจากนี้ต่อไปเรายืนยันจะพัฒนาบริการของเราให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องให้สมกับที่ลูกค้าไว้ใจ “เอ.ที.คาร์เซลส์” มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และกำลังจะก้าวสู่อนาคตต่อๆ ไปนั่นเอง