นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการ คปภ. สั่งให้บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 52 โดยให้แก้ไขฐานะและการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ต่อมาบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย ได้มีหนังสือขอผ่อนผันขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะของบริษัท ตามคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2561 เป็นระยะเวลารวม 3 เดือน หรือภายในวันที่ 28 กันยายน 2561 นั้น
ที่ประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 ได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามที่สำนักงานคปภ. เสนอดังนี้ 1.มีหลักฐานยืนยันว่าบริษัทได้นำเงิน 110 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารเพื่อทำการเพิ่มทุน ซึ่งสำนักงานคปภ. ได้ตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม ว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากผู้ถือหุ้นจริง
2.เงิน 110 ล้านบาท ที่บริษัทนำมาเพิ่มทุนชำระแล้วนั้นจะอยู่ในการควบคุมดูแลของสำนักงาน คปภ. บริษัทไม่สามารถเบิกถอนได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนทั้งนี้เป็นไปตามประกาศนายทะเบียน เรื่องกำหนดการจ่ายเงินอื่นของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย ที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2561
3.จากการวิเคราะห์สภาพคล่องของบริษัท สำนักงาน คปภ. พบว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการจ่ายค่าใช้จ่ายในกรณีภาวะปกติไปอีกประมาณ 90 วัน นับจากปัจจุบัน และมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนรายใหญ่และ/หรือรายการที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยต่อไปอีก ประมาณ 60 วัน
ดังนั้นคณะกรรมการฯพิจารณาแล้วเห็นว่าบริษัทมีความคืบหน้าในการแก้ไขฐานะและการดำเนินการจึงมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาการแก้ไขฐานะของบริษัท เจ้าพระยาประกันภัย ออกไป จนถึงวันที่ 28 สิงหาคม 2561 และให้รายงานความคืบหน้าการแก้ไขฐานะทุกวันจันทร์ของสัปดาห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี