น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) โกลเบล็ก หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงส์ราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับสูงหลังสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ3 ปีครึ่งส่งให้มีแรงซื้อในกลุ่มพลังงาน
ประกอบกับตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมปรับดีขึ้นทำให้คาดว่าจะตามมาด้วยการจับจ่ายใช้สอยในการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 เดือนถัดไป และภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยปีนี้ มีแนวโน้มดีกว่าคาดการณ์ เมื่อตอนต้นปี จากการส่งออกและภาคท่องเที่ยวขยายตัวดี ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน
ปัจจัยกดดันการลงทุนยังคงเป็นปัญหาสงครามการค้าโลกยังยืดเยื้อ และขยายวงกว้างจากหลายประเทศออกมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม และหุ้นกลุ่มธนาคารที่ใกล้จะประกาศงบการเงินงวดครึ่งปีซึ่งคาดว่ากำไรงวดไตรมาส 2/2561 มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมโอนเงินผ่านโมบายแอพและอินเตอร์เนตออนไลน์
อีกทั้งกระแสเงินทุนหรือ Fund Flow ยังผันผวนต่อเนื่องโดยช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1 หมื่นล้านบาท และยังคงต้องจับตาการประกาศผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารระหว่าง 11-20 กรกฎาคม และในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ จะมีการประชุม สนช.เพื่อเลือก กกต.ชุดใหม่ รวมทั้งสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนคาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,600-1,650 จุด จึงแนะนำลงทุนในหุ้นที่ราคามีความผันผวนต่ำ ราคาปรับลงไม่มากยามภาวะตลาดชะลอตัว แต่มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง และหุ้น Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากคณะรัฐมนตรี(ครม.)คงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ที่ 7% อีก 1 ปี เช่น CPALL, ROBINS, HMPRO และ BEM รวมทั้งหุ้นส่งออกได้ประโยชน์ค่าเงินบาทอ่อนค่า เช่น KCE, CPF และ GFPT และการที่ราคากากถั่วเหลืองล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นบวกต่อ TVO
ส่วนแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลงจากการประเมินว่า Fed มีโอกาสจะชะลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯส่งสัญญาณขยายตัวช้าลง และมีความกังวลเรื่องสงครามการค้าโลกที่ขยายวงกว้างจะกลับมาสร้างผลกระทบทางลบมูลค่ามหาศาลให้กับสหรัฐฯในอนาคต ส่งผลให้ค่าเงินสกุลหลักอื่นๆ ปรับตัวแข็งค่า รวมทั้งค่าเงินบาท ขณะที่เงินทุนระยะสั้นไหลกลับเข้าเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าเข้าหาทองคำ ทำให้ราคาทองคำทรงตัวอยู่เหนือระดับ US$ 1,250 ส่วนราคาทองในประเทศ
ยังคงแกว่งอยู่ในกรอบ sideway
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ดีดกลับขึ้นมา มีโอกาสจะเป็นปัจจัยบวกหนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นต่อในขารีบาวด์ได้ โดยมีสัญญาณ follow buy เมื่อทะลุ 1,260 ดอลลาร์ เหมาะสำหรับการเก็งกำไรรอบสั้นๆ เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นในทองคำ ดังนั้นแนะนำนักลงทุนเล่น follow buy เมื่อทะลุ 1,260 ดอลลาร์ โดยเน้นปิดทำกำไรเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ส่วนพอร์ตเล่นรอบควรรอดูสถานการณ์เพื่อพิจารณาเปิดสถานะใหม่อีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี