นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา Thailand Competitiveness Conference 2018 ซึ่งจัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย(TMA) ว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้จัดให้เรื่องนี้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะต้องแก้ไข หากไม่ดำเนินการใดๆ เลย จะทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต
ปัจจุบันขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย ถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 30 ของโลก ซึ่งการศึกษาของ สถาบัน IMD World Competitiveness Center ได้ประเมินประเทศไทยในหลายๆ เรื่อง ทั้งภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ประเทศไทยทำได้ดี ขณะที่ด้านประสิทธิภาพของเอกชน อยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งในมุมมองส่วนตัวมองว่า ภาคเอกชนน่าจะทำได้มากกว่านี้ เพราะมีข้อมูลที่ใกล้ชิดประชาชนได้มากกว่ารัฐ โดยเฉพาะความร่วมมือในการพัฒนาความรู้และงานวิจัยต่างๆ
ส่วนด้านประสิทธิภาพของภาครัฐ ได้คะแนนอยู่ในระดับกลางๆ เช่นกัน โดยมีประเด็นที่ถูกว่าประเทศไทยจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูง จนส่งผลกระทบต่อการแข่งขัน ซึ่งในอนาคตภาครัฐจะมีการพัฒนาในส่วนนี้และทำการปฏิรูประบบภาษี สร้างความสมดุลและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
และด้านสุดท้ายเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ที่ถูกจัดอันดับไว้ค่อยดีมากนัก ซึ่งก็ต้องยอมรับเพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยหยุดลงทุนในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานมาเป็น 10 ปี แต่ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญ โดยลงทุนในโครงการรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าความเร็วสูง รวมถึงการสร้างถนนใหม่ๆ เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ นอกจากนี้ ยังมีการลงทุน พัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์ ของกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)
จากนี้รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างทางการเงิน ผลักดันให้ลดการใช้เงินสด โดยได้จัดทำกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านโครงการบัตรสวัสดิการของรัฐ เชื่อว่าการจะช่วยลดปัญหาการคอร์รัปชั่นของภาครัฐ การใช้งบประมาณจัดพิมพ์เงินสดลงลง สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันได้
นอกจากนี้ รัฐบาลยังเร่งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)เพื่อเป็นเครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจตัวใหม่ให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ ยังพยายามช่วยเหลือธุรกิจ SMEs ให้เข้มแข็งรวมถึงยกระดับภาคเกษตร ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ มีความเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ทั้งการจ้างงานและการสร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อทำให้ไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
ด้านสุดท้ายการพัฒนาคนซึ่งมีความสำคัญสำหรับการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้คณะรัฐมนตรี มีการปรับโครงสร้างกระทรวงโดยให้มีกระทรวงใหม่ กระทรวงอุดมศึกษาวิจัยพัฒนาและวิทยาศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับองค์ความรู้ให้กับประเทศได้อีกมาก
“ไทยเรานั้น เข้าสู่ยุคดิจิทัลไปพร้อมๆกับประเทศอื่น ทำให้เราไม่ได้เสียเปรียบหรือตามหลังเขามาก หากเราพัฒนาได้ดี เอกชนร่วมมือ มีการจัดการที่ดี เชื่อว่าเรามีโอกาสยกระดับขีดความสามารถไปอยู่ระดับต้นๆของโลกได้ ไม่ใช่ตามหลังเหมือนในอดีตทุกคนต้องร่วมมือกัน” นายอภิศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี