นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทยแล้ว สิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินงานต่อไป ก็คือการแก้ไขกฎหมายต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพใน 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ 1.ปรับปรุง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 ให้สามารถนำอ้อยไปผลิตสินค้าอื่นที่ไม่ใช่น้ำตาลทรายได้ และจัดสรรวัตถุดิบ (น้ำอ้อย) ที่เป็นสารตั้งต้นในการผลิตเคมีชีวภาพให้เพียงพอและเหมาะสมกับอุตสาหกรรมชีวภาพ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อยู่ระหว่างการนำเสนอ (ร่าง) พ.ร.บ.ต่อ ครม.
2.ปรับปรุงประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ที่กำหนดให้โรงงานที่ใช้อ้อยต้องมีระยะห่างระหว่างกันไม่ต่ำกว่า 50 กิโลเมตร ซึ่งจะต้องยกเลิกข้อกำหนดนี้ เพื่อให้ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมชีวภาพเพื่อต่อยอดการผลิตจากโรงงานน้ำตาลได้ แต่จะต้องได้รับการยินยอมจากโรงงานน้ำตาล และสอน. โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์โรงงานชีวภาพ เพื่อแยกอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพออกจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนที่จะเข้าไปตั้งโรงงานเคมีชีวภาพ ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
3.การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายผังเมือง เปิดทางให้ตั้งโรงงานเคมีชีวภาพ และการแปรรูปสินค้าเกษตรในพื้นที่เกษตรกรรมได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี