23 ก.ค.61 นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการ กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน และรักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยเกี่ยวกับการประชุมชี้แจงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน(ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา) ครั้งที่ 1 ว่า ในการเปิดประชุมชี้แจงดังกล่าวมีเอกชนผู้ซื้อซองเอกสารทั้งหมดจำนวน 31 ราย คาดว่าหลังจากในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ที่เป็นกำหนดรับซอง อาจมีการรวมกลุ่มประมาณ 3-4 กลุ่ม โดยหลังจากนี้จะมีการนำผู้แทนบริษัทเอกชนที่ซื้อเอกสารลงพื้นที่ เพื่อชมสถานที่ก่อสร้างโครงการฯ เช่น การก่อสร้างร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต , การจัดการพื้นที่ของสถานีกลางบางซื่อรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินฯ เพื่อให้เห็นรูปแบบการเดินทางอย่างเป็นระบบ ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2567 คาดว่าโครงการใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี
ทั้งนี้ ในส่วนของการส่งมอบพื้นที่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เป็นพื้นที่ตัวสถานีอยู่ในอำเภอเมืองและอำเภอบางน้ำเปรี้ยวประมาณ 300 ไร่ กรอบวงเงินงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณพื้นที่ที่จะเวนคืนเพื่อก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินโดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบพื้นที่ทั้งหมดให้กับเอกชนเริ่มก่อสร้าง ภายในต้นปี 2562 ส่วนพื้นที่บริเวณสถานีมักกะสัน จำนวน 150 ไร่ คาดว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ครบภายใน 5 ปี
สำหรับความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงิน 76,000 ล้านบาท เตรียมที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาได้ภายในสัปดาห์หน้าเนื่องจากเสนอไม่ทันการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 อีก 8 เส้นทางนั้น ขณะนี้ทางคณะกรรมการ การรถไฟฯได้เห็นชอบหมดแล้วและอยู่ระหว่างเสนอกระทรวงคมนาคมและส่งต่อไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการเปิดประมูลเส้นทางต่อไป
ด้านนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร และกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)(ITD) กล่าวว่า หลังจากที่ ITD ได้ยื่นซื้อซองเอกสารประกวดราคา(TOR)โครงการแล้วได้มีการหารือร่วมกับเอกชนหลายรายเพื่อหาพันธมิตรร่วมประมูลโครงการโดยทาง ITD จะเน้นในส่วนของงานก่อสร้างจึงต้องเจรจาพันธมิตรด้านธุรกิจอื่น โดยที่ผ่านมาได้มีการหารือกับเอกชนรายอื่นๆเช่น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน)(BTS) รวมถึงบริษัททุนต่างชาติจากทั้งประเทศฝรั่งเศสและประเทศญี่ปุ่น
ขณะที่นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)(TPIPL) เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะเวลาสัมปทาน 50 ปีจะมีศักยภาพด้านตัวเลขกำไรจึงไม่มีความกังวลใดเลยในการใช้เงินลงทุนจำนวนมากเนื่องจากมีประสบการณ์ในการลงทุนพลังงานมูลค่าโครงการหลายแสนล้านบาทมาแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้เริ่มหารือกับบริษัทต่างชาติหลายรายให้เข้ามาลงทุนงานระบบและจัดหาตัวรถเช่น ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศสและเยอรมนี เพื่อจับมือเป็นพันธมิตร(Consotium) เข้าร่วมประมูลโครงการ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะสรุปรายชื่อพันธมิตรได้ภายใน ส.ค.นี้ก่อนยื่นประมูลในเดือน พ.ย.2561
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี