ราคาน้ำมันดิบดิ่ง จากความกังวลสงครามการค้าและความต้องการใช้น้ำมันดิบจีนชะลอตัว
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันดิบของจีน หลังจีนได้ทำการประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีการนำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันดิบและรถยนต์ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 ส.ค.
- ความต้องการใช้น้ำมันดิบจากจีนยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง หลังมีรายงานตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือน ก.ค. อยู่ที่ 8.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดเป็นอันดับ 3 ในรอบปี 2561 จากความต้องการใช้ของโรงกลั่นน้ำมันอิสระ อย่างไรก็ตามการนำเข้าปรับเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย. เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในจีนที่กลับมาดำเนินการผลิตหลังทำการปิดซ่อมบำรุง
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกวาที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะปรับลดลงถึง 3.3 ล้านบาร์เรลอย่างไรก็ดี ด้านปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดราว 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากอุปทานในภูมิภาคที่ลดลงจากกการลดกำลังการผลิตในประเทศจีน ประกอบกับได้รับอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศศรีลังกา
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลที่ลดลงจากประเทศจีน ล อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากกาครกลับมาดำเนินการของโรงกลั่นในประเทศสิงคโปร์
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
§ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นหลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Syncrude ในแคนาดา กำลังการผลิต 360,000 บาร์เรลต่อวัน มีแนวโน้มกลับมาผลิตได้ตามปกติในเดือน ส.ค.
§การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดลงกว่าร้อยละ 5 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 111 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังทั้งสองกลุ่มผู้ผลิตตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมโอเปกที่ผ่านมา
§ปริมาณการผลิตและส่งออกของลิเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga กลับมาดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ ท่าเรือ Ras Lanuf และ Es Sider สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้วด้วย แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงถังเก็บน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ยังคงหายไปกว่า 160,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุลักพาตัวคนงานโดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี