นางสุรีย์พร สหวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า แถลงยอดการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่า 20,423 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 8.27% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และไทยที่สามารถปรับตัวกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่นๆ ได้ดีรวมทั้งการส่งออกไปยังตลาดหลักที่ขยายตัวได้ 5.4% ทั้งในญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป
แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดสหรัฐลดลง 1.9% ครั้งแรกในรอบ 21 เดือน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรทั้งกุ้ง และอาหารทะเล ที่ผลผลิตของไทยน้อยลง รวมทั้งการส่งออกโทรทัศน์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่งออกลดลง ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไปจนถึงสินค้าที่มีมาตรการกีดกัน เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ลดลงถึง 72% เครื่องซักผ้าลดลง 21.9% และเหล็กลดลง 4.6% แต่ถือว่าไม่กระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทยมากนัก
ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมของไทย ทั้งน้ำตาลทรายส่งออกได้เพิ่มขึ้นถึง 41% รวมไปถึงไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ขยายตัว 14.1% และสินค้าอุตสาหกรรมที่ยังขยายตัวได้ 7.7% ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าส่งออกรวม 146,235 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 10.57% สูงสุดในรอบ 7 ปี
ทั้งนี้ ในภาพรวมยังคาดว่าการส่งออกในปี 2561จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 8% และผู้ประกอบการส่งออกยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกยังมีแนวโน้มเติบโต โดยดัชนีภาวะธุรกิจส่งออกเดือนสิงหาคม 2561 เท่ากับ 50.9 อีกทั้งค่าดัชนีมูลค่าคำสั่งซื้อใหม่ปรับสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกที่มีการขยายตัวอย่างชัดเจนในเกือบทุกภูมิภาค อาทิ สหรัฐฯ กลุ่มประเทศยูโรโซน จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน เป็นปัจจัยสนับสนุนให้การส่งออกขยายตัวและการกระจายตัวได้ดีขึ้นโดยสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงได้แก่ สินค้าอุตสาหกรรม (เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์) และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน อาทิ เคมีภัณฑ์และพลาสติก
แม้ว่า ในระยะสั้น-กลาง การส่งออกอาจเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า และความผันผวนของตลาดการเงินและตลาดทุนโดยเฉพาะกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งอาจกระทบกับอัตราแลกเปลี่ยน การส่งออกของไทยที่มีการกระจายตัวในตลาดใหม่ๆ และศักยภาพในการขยายตลาดที่มากขึ้นในอนาคต จะช่วยลดทอนความเสี่ยงและผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว และสนับสนุนให้การส่งออกไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ 8% ได้ในปี 2561
นอกจากนี้สถานการณ์ค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าลงเป็นโอกาสดีต่อผู้ส่งออก ในการเร่งผลักดันส่งออกสินค้าและทำให้รายได้การส่งออกในรูปเงินบาทสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกควรทำประกันความเสี่ยงจากความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนและสถานการณ์การค้าด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จะมีการทบทวนเป้าส่งออกอีกครั้งในการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกในเดือนตุลาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี